ป๊อกเด้ง เกมไพ่ยอดนิยมเล่นง่ายจบไว รวยเร็ว
( ป๊อกเด้ง เกมไพ่ยอดนิยมเล่นง่ายจบไว รวยเร็ว )ป๊อกเด้งเป็นอีกเกมไพ่ชนิดหนึ่งที่เชื่อได้ว่าไม่มีใครที่ไม่เคยผ่านหู ผ่านตาหรือได้สัมผัสเกมไพ่นี้มาก่อนอย่างแน่นอน แต่ทราบกันหรือไม่ว่าเกมไพ่ที่เล่นง่าย จบไว อย่างป๊อกเด้งนี้ยังคงมีกติกาที่ทั้งผู้เล่นเก่า และผู้เล่นใหม่อาจจะยังไม่รู้รายละเอียดชนิดที่ลึกซึ้งเลยก็ได้ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า
ทำไมใครๆก็ชอบเล่นป๊อกเด้ง คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ ป๊อกเด้ง เล่นอย่างไร ถึงได้เป็นเกมไพ่ยอดนิยมทุกยุคทุกสมัย
ป๊อกเด้ง กติกา
ถ้าอยากจะหาเกมไพ่ที่เล่นไม่ยาก รู้ผลเร็ว จบไว อาศัยดวงมากกว่าฝีมือ ก็ต้องเกมไพ่ป๊อกเด้งเนี่ยล่ะถึงจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามเกมไพ่ป๊อกเด้งก็ยังต้องใช้กติกาในการตัดสินผลแพ้ชนะ หากว่าคุณเข้าวงเล่นไพ่แบบที่ไม่รู้กติกามาก่อนเลย อาจจะโดนเจ้ามือโกงรวบจนหมดตัวได้ เพราะบางครั้งเจ้ามือจะใช้โอกาสนับแต้มให้คุณผิดพลาด หรือเนียนจ่ายไม่ครบตามอัตราที่ต้องจ่ายจริงก็ได้ ซึ่งสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ดังนี้
ถ้าไม่อยากเสียโอกาสที่จะพิชิตชัยชนะเกมรูเล็ต คุณต้องอ่านบทความนี้ 8 กลยุทธ์เอาชนะเกมรูเล็ต
ขั้นตอนการเล่นป๊อกเด้ง
1. ผู้เล่น : หรือในวงไพ่จะเรียกว่า “ขา” ทุกคนจะต้องลงเดิมพันในอัตราที่เจ้ามือกำหนดวงเงินไว้สูงสุดได้
2. เจ้ามือ : ทำหน้าที่แจกไพ่ โดยจะแจกไพ่ให้กับผู้เล่นทุกคน คนละ 2 ใบ รวมทั้งแจกให้ตัวเจ้ามือเองด้วย
3. เริ่มแจกไพ่วนด้านขวามือ หรือ วนไปทางซ้ายของเจ้ามือ : ไม่ว่าจะแจกวนทางด้านในเจ้ามือจะต้องเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับไพ่เสมอ
4. เมื่อผู้เล่นทุกคนเปิดไพ่ ผู้เล่นที่ได้ป๊อกจะต้องโชว์ไพ่ทันที : ส่วนผู้เล่นคนอื่นที่ไม่ได้ป๊อกเจ้ามือจะใช้วิธีนับแต้มตามผลบวกของไพ่เพื่อเริ่มเล่นรอบต่อไป
5. หากเจ้ามือเป็นฝ่ายป๊อกเกมจะจบทันที : กติกาสำคัญของไพ่ป๊อกเด้งคือ การป๊อกจะถือได้ว่าเป็นไพ่ใหญ่สุดของเกม หากเจ้ามือป๊อกก็จะวัดแต้มผู้เล่นในทันที
6. หากเจ้ามือไม่ป๊อก : ในกรณีนี้ผู้เล่นทุกคนจะมีสิทธิ์ร้องขอไพ่ใบที่สาม ก่อนจะตัดสินใจได้
7. ผู้เล่นในวงทุกคนจะต้องเอาไพ่ไปวัดกับเจ้ามือเพื่อตัดสิน : ผู้เล่นจะไม่ได้วัดแต้มกับผู้เล่นด้วยกันเอง
8. เจ้ามือจะรับเงินจากผู้เล่นที่แพ้ แล้วจ่ายเงินให้กับผู้เล่นที่ชนะ : ในอัตราการจ่ายตามปกติ และอัตราจ่ายแต้มพิเศษ
การวัดผลแพ้ชนะ
ในเรื่องการวัดผลที่มีวิธีคิดแต้มต่างกันทำให้สามารถแบ่งการวัดผลออกเป็น 2 ช่วง
ช่วงเล่นไพ่ 2 ใบ
เป็นช่วงหลังจากที่เจ้ามือแจกไพ่ให้กับผู้เล่น 2 ใบจนครบทุกคน เมื่อผู้เล่นทุกคนได้รับไพ่ก็จะเปิดไพ่ของตัวเองดูบนมือแล้วรวมผลบวกของแต้มบนไพ่ ด้วยการเอาหลักหน่วยของผลบวกเป็นแต้ม ซึ่งแต้มจะเรียงจากใหญ่สุดไปจนเล็กสุด คือ ป๊อก9>ป๊อก8>ป๊อก7>ป๊อก6…1>0 (ภาษาไพ่เรียกว่าบอด) ส่วนจำนวนเด้งจะไม่มีผลกับการคิดผลแพ้ชนะ แต่เป็นแค่ส่วนของจำนวนเท่ากับที่เจ้ามือจะจ่ายให้กับผู้เล่น ส่วนผู้เล่นคนไหนที่ไพ่ในมือออกป๊อก 9 และ ป๊อก 8 ก็จะต้องเปิดไพ่โชว์ในทันที
หากเจ้ามือเป็นฝ่ายป๊อกจะส่งผล ดังนี้
1. ในวงผู้เล่นทุกคนมีสิทธิ์ที่จะร้องขอไพ่เพิ่มได้อีกคนละ 1 ใบ หรือจะไม่เรียก็ได้แล้วแต่การตัดสินใจ ในที่นี้รวมถึงเจ้ามือก็สามารถเรียกได้เช่นกัน
2. ถ้าเจ้ามือไม่เรียกไพ่เพิ่ม เจ้ามือก็จะทำการเปิดไพ่ออกมาวัดผลกับผู้เล่นได้เลย
3. หรือก่อนที่เจ้ามือจะเรียกไพ่ใบที่ 3 เจ้ามือมีสิทธิเรียกจับ (เปิดไพ่) ได้ ด้วยการเลือกจับ 2 ใบหรือ 3 ใบก็ได้ ส่วนการจับก็คือการนำไพ่ในมือของเจ้ามือ 2 ใบไปวัดกับไพ่ 2 หรือ 3 ใบของผู้เล่น หลังจากนั้นเจ้ามือก็จะเรียกไพ่เพิ่มอีก 1 ใบเพื่อเกมยังดำเนินต่อไปเล่นกับผู้เล่นที่เหลือ
4. กรณีที่ผู้เล่นมีแต้มรวมได้น้อยกว่าเจ้ามือ จัดว่าแพ้ และเป็นฝ่ายต้องเสียเงินเดิมพัน
5. กรณีที่ผู้เล่นมีแต้มเท่ากับเจ้ามือ จัดว่าเสมอ ถือว่าเจ๊าไม่มีใครได้หรือเสีย
6. กรณีที่ผู้เล่นมีแต้มรวมได้มากกว่าเจ้ามือ จัดว่าชนะ ไม่ต้องบอกว่าผลจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าจะต้องได้เงินจากเจ้ามือ
ช่วงเล่นไพ่ 3 ใบ
ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หลังจากเล่นไพ่สองใบไปแล้ว หรือช่วงที่เจ้ามือแจกไพ่ให้กับผู้เล่นคนละ 2 ใบ และเจ้ามือก็ยังไม่เป็นฝ่ายป๊อก (แต่ถ้ามีใครป๊อกไปแล้วก็จะจบไปที่รอบก่อนหน้า) ผู้เล่นที่เหลือก็จะยังคงเล่นต่อไปในรอบนี้ โดยผู้เล่นจะเริ่มเลือกว่าจะเรียกไพ่เพิ่ม หรือไม่เรียกก็ได้ รวมทั้งเจ้ามือด้วยเช่นกัน ซึ่งตามปกติแล้วผู้เล่นที่เรียกไพ่เพิ่มจะเป็นคนที่มีแต้มบนมือน้อย หรือคาดหวังว่าจะได้แต้มเพิ่มสูงขึ้น
แต้มในช่วงนี้จะคิดจากสูงสุดไปยังต่ำสุด คือ ตอง (ไพ่ที่เลขออกมาเรียงกัน 3 ใบ) สเตรทฟลัช (ไพ่ที่ดอกเดียวกันเรียง 3 ใบ) เรียง (ไพ่เรียง 3 ใบ) เซียน (J, Q, K ใบไหนก็ได้ใน 3 ใบ) 9 แต้ม>8 แต้ม> 7 แต้ม >….>0 แต้มบอด
การจับ
ในระหว่างที่เล่นไพ่ 3 ใบจะเกิดการจับขึ้น ซึ่งการจับก็คือการที่เจ้ามือนำไพ่ 2 ใบมาวัดเทียบกับไพ่บนมือของผู้เล่นหลังจากที่ได้เรียกไพ่ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเจ้ามือเลือกที่จะเรียกจับใคร หรือไม่เรียกจับเลยก็ได้ เมื่อจับเสร็จแล้ว เจ้ามือก็ยังสามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ขึ้นมาเพื่ออยู่ในเกมเล่นต่อกับผู้เล่นที่ไม่ได้จับ
การเรียงลำดับแต้มของไพ่
ไพ่แต่ละใบจะมีแต้มอยู่บนไพ่ เมื่อผู้เล่นได้รับแจกไพ่แล้วก็ให้เอาแต้มไพ่มาบวกเข้าด้วยกันเป็นแต้ม หากบวกแล้วได้แต้มเกิน 10 ขึ้นไปจะใช้แค่หลักหน่วยนำมาคิดวัดผล โดยมีแต้ม ดังนี้
A (Ace) : มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม กรณีที่นำมาเรียงกับไพ่ใบอื่นจะเป็นไพ่ใบใหญ่ที่สุด แต่นำไปเรียงย้อนกลับไม่ได้ เช่น K, A, 2 และ A, 2, 3
Card Point: จะเป็นไพ่เลข มีค่าตามเลขที่อยู่บนไพ่จาก 2 – 9
O Point: เป็นไพ่บอดหรือไม่มีแต้มจะได้แก่ 10, J, Q, K
จากตัวอย่างข้างล่างจะเป็นการเรียงไพ่ที่นำลำดับแต้มของไพ่มาเรียงสรุปทั้งหมดให้เห็นจากแต้มมากสุดไปหาแต้มน้อยที่สุด ตามนี้
ป๊อก 9 : เป็นไพ่ 2 ใบแรกที่รวมกันแล้วได้ 9 แต้ม ถือได้ว่าเป็นแต้มใหญ่ที่สุดของเกม ตามรูปจะมีค่าเท่ากับป๊อก 9 สองเด้ง
ป๊อก 8 : เป็นไพ่ 2 ใบแรกที่นับแต้มได้ 8
ตอง : เป็นไพ่จำนวน 3 ใบที่มีเลขเดียวกัน นับว่าเป็นแต้มใหญ่ที่สุดในช่วงการเล่นไพ่ 3 ใบ
สเตรทฟลัช : เป็นไพ่เรียงเลขที่มีดอกไพ่เดียวกัน จะมีลักษณะตามแบบตัวอย่าง คือ 9,8,7
เรียง : เป็นไพ่เรียงกันแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกเดียวกันก็ได้ นอกจากเรียง A, 2, 3 และ K, A, 2 ซึ่งถือ A เป็นไพ่ใบที่ใหญ่สุด ใช้การเริ่มนับแต้มเรียงตั้งแต่ 2 ไล่ไป
เซียน : เป็นไพ่บอดที่มีหน้าตาไพ่รูปแบบ K, Q, J ซึ่งไพ่ 3 ใบนี้สามารถซ้ำกันได้ แต่ทว่าจะเป็นกรณีที่ไพ่ใบเดียวกัน 3 ใบ อาทิ K, K, K เรียกอีกอย่างว่าไพ่ตอง
9 แต้มหลัง : เป็นไพ่จำนวน 3 ใบที่รวมผลกันได้ 9 แต้ม
8 แต้มหลัง : เป็นไพ่ 3 ใบที่นับผลแต้มได้ 8 แต้ม
7 แต้ม ถึง 1 แต้ม : เป็นไพ่ 2 ใบ (กรณีที่ไม่ได้ไพ่ป๊อกแล้วไม่เรียกขอไพ่เพิ่ม) หรือ ไพ่ 3 ใบที่รวมผลกันได้ 7 ถึง 1 แต้ม
0 แต้ม หรือเรียกว่าบอด : เป็นไพ่ที่เมื่อนำแต้มมารวมกันแล้วได้แต้มเท่ากับ 0 ถือว่าเป็นไพ่ต่ำสุด
ตำแหน่งพิเศษ
คือตำแหน่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาจากในวง มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
หลายขา : จะเป็นลักษณะที่ผู้เล่นวางเดิมพันหลายขา ซึ่งผู้ที่เรียกจะได้รับไพ่เพิ่มอีกชุดตามจำนวนขาที่เรียก
ตัดดวง หรือ ตัดขา : คือผู้เล่นที่ลงเดิมพันแทรกระหว่างตำแหน่งกับผู้เล่นอื่น ซึ่งตามความเชื่อการลงเดิมพันอย่างนี้เรียกว่าเป็นการตัดดวงให้เข้ามาหาตนเอง
มือบ๊วย หรือ ขาบ๊วย : คือขาที่ลงวางเดิมพันหลังจากเจ้ามือวาง ซึ่งขานี้จะได้รับไพ่ชุดสุดท้ายต่อจากเจ้ามือ โดยเชื่อกันว่าจะเป็นการตัดดวงเจ้ามือเอง
แต้มพิเศษ
นอกจากแต้มปกติแล้ว ยังมีแต้มพิเศษที่สามารถนำมาคูณเพิ่มกับเงินเดิมพัน โดยไม่เกี่ยวว่าผลจะออกมาแพ้หรือชนะ ไม่ว่าจะเด้งหรือไม่ก็ได้ หากไพ่ได้คะแนนออกมาน้อยกว่าก็ถือว่าผลออกมาเป็นแพ้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้เล่น A ได้ไพ่ป๊อก 8 สองเด้ง (ดอกจิก 10 และ ดอกจิก 8) แต่เจ้ามือกลับได้ไพ่ป๊อก 9 ( J หัวใจ และ 9 หัวใจ) ถึงแม้ว่าผู้เล่น A จะได้ไพ่เด้งก็ตาม แต่ยังถือว่าผลออกมาแพ้เจ้ามือ และไม่ได้เดิมพัน ส่วนอัตราคูณเดิมพันจะมีอะไรบ้าง แล้วต้องคูณเท่าไหร่มาลองดูกัน
สองเด้ง : คือ ไพ่ที่อยู่ในมือเพียงแค่ 2 ใบ แล้วสองใบที่ได้ก็เป็นเลขเดียวกัน หรือดอกเดียวกัน เมื่อคุณเป็นฝ่ายชนะก็จะได้รับเงินเดิมพันเพิ่มเป็น 2 เท่า
สามเด้ง : คือ ไพ่ที่อยู่ในมือ 3 ใบ ได้ไพ่ดอกเดียวกัน หากผลออกมาว่าชนะก็จะได้รับเดิมพันเพิ่มเป็น 3 เท่า
ตอง : คือ ไพ่ที่อยู่ในมือ 3 ใบเป็นเลขเดียวกันทั้งหมด จะได้รับเงินเดิมพันเพิ่มถึง 5 เท่า
สเตรทฟลัช : คือ ได้ไพ่เรียงบนมือ 3 ใบ เป็นเลขเรียงกัน รวมทั้งดอกไพ่เดียวกัน จะได้รับเงินเดิมพันเพิ่มถึง 5 เท่า
เรียง : คือ ไพ่ 3 ใบเรียงเลขกัน ได้รับเงินเดิมพันเพิ่ม 3 เท่า
เซียน : คือ ไพ่ที่มีลักษณะ J, Q, K 3 ใบคละกัน จะได้รับเงินเดิมพันเพิ่ม 3 เท่า
การเข้าเล่นเกม และ หยุดเล่นเกม
บางครั้งเมื่อเล่นไปสักระยะก็อาจจะมีผู้เล่นที่อยากจะลุกออกจากโต๊ะ หรือ ขอเข้ามาเล่นในวง ผู้เล่นกับเจ้ามือจึงต้องมีกฎขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นทุกคนทำตาม ดังนี้
ผู้เล่น หรือขา : หากคุณอยู่ในตำแหน่งผู้เล่นก็สามารถลุกออกได้ตลอดเวลา เมื่อจบรอบแล้วอยากจะหยุดเล่นก็สามารถออกได้ทันทีเช่นกัน
เจ้ามือ : ส่วนถ้าเป็นเจ้ามือจะต้องมีกฎที่ต้องทำตามมากกว่าผู้เล่น คือหากต้องการจะเลิกเล่นต้องแจ้งกับวงก่อน 3 เกมว่าจะเลิกแล้ว เพื่อให้ผู้เล่นได้ถอนทุนคืน และเตรียมตัวที่จะละจากวงไพ่ออกไป
ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมดตามข้างต้นจะเป็นกติกาหลัก ๆ ของเกมไพ่ป๊อกเด้ง แต่ในส่วนของอัตราคูณเงินเดิมพัน และการเรียบเรียงไพ่บางแบบอาจจะขึ้นอยู่กับเจ้ามือเป็นผู้กำหนดว่าต้องการเรียงแบบไหน จะนำมาใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ในเกม บางเกมเจ้ามือไม่นำการเรียงแบบสเตรทฟลัชมาใช้ ก็จะเป็นนับในแบบเรียงไพ่ธรรมดา
อย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าเกมไพ่ป๊อกเด้งเป็นเกมไพ่ที่เล่นง่าย ๆ มีรายละเอียดไม่ซับซ้อน รู้ผลแพ้ชนะได้เงินเดิมพันไวทันใจสุด ๆ แต่สิ่งสำคัญที่ผู้เล่นจะต้องท่องให้ขึ้นใจคือ ไพ่ที่มีแต้มใหญ่มากแค่ไหน หรือได้แต้มพิเศษเพื่อนำมาคำนวนอัตราคูณเงินเดิมพันมากเท่าไหร่ ก็ไม่ควรประมาทเจ้ามือเพราะด้วยความที่เกมสามารถเล่นไวจบไวนี่แหล่ะ เจ้ามืออาจจะอาศัยโอกาสนี้ลักไก่ได้ จึงต้องระวังให้มากที่สุด