สูตรเดินเงินรูเล็ต ที่มือใหม่ห้ามพลาด !!!
( สูตรเดินเงินรูเล็ต ที่มือใหม่ห้ามพลาด !!! ) เชื่อว่านักพนันหลาย ๆ คนคงพอจะรู้จักสูตรเดินเงินในเกมพนันคาสิโนสดกันดีอยู่แล้ว ซึ่งสูตรเดินเงินแต่ละแบบก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป สำหรับในบทความนี้เราก็มีสูตรเดินเงินมารูเล็ตแนะนำให้คุณได้รู้จัก และนำไปทดลองใช้ รับรองว่าต้องทำกำไรให้คุณได้อย่างคุ้มค่าอย่างแน่นอน ซึ่งเราจะมีให้ทั้งกฎกติกา ตำแหน่งเดิมพัน วิธีการเล่น อัตราการจ่าย ชนิดที่ว่าละเอียดยิบโดยเฉพาะมือใหม่ห้ามพลาดเด็ดขาด !!!
คุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ แนะแนวเทคนิคเล่น Poker อย่างมืออาชีพ
เกมรูเล็ต (Roulette)
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่าเกม รูเล็ต คือเกมเดิมพันอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักพนันไม่น้อย ด้วยเหตุผลเกมมีความหลากหลายให้ผู้ลงได้เลือกเดิมพัน รวมทั้งมีตำแหน่งของการวางพันที่มีอยู่มากมายเช่นกัน ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกวางเดิมพันได้ตามชอบใจ
โดยเกมเดิมพันจะมีแบบความเสี่ยงสูง กำไรสูง เช่น แทงค่อม 2 หมายเลข, เต็งหมายเลข, แทงค่อม 3 หมายเลข, แทงค่อม 4 หมายเลข และแทงค่อม 6 หมายเลข หรือจะเป็นการเดิมพันแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ อัตราการชนะสูง เช่น สูง – ต่ำ, คู่ – คี่, ดำ – แดง, แทงแถว, แทงโซน เป็นต้น
ส่วนของขั้นตอนการเล่น ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้วางเดิมพันตำแหน่งที่ต้องการจะเล่น และทายผลว่าลูกบอลเล็ก ๆ ทรงกลมที่หมุนอยู่ในวงล้อรูเล็ต จะตกหรือหยุดลงตรงหมายเลขไหน ซึ่งในกระดานรูเล็ตจะมีหมายเลขทั้งหมด 37 หมายเลข คือตั้งแต่ 0 – 36 หลังจากที่ผู้เล่นได้เลือกตำแหน่งที่ต้องการแล้ว (บางคนอาจจะใช้เวลาเลือกจนถึงหมดเวลาเดิมพัน) ดีลเลอร์ที่ทำหน้าที่คอยเฝ้าตรงวงล้อรูเล็กจะเริ่มทำการหมุนวงล้อไปทางด้านซ้ายมือก่อน (ทวนเข็มนาฬิกา) แล้วหยิบลูกบอลหมุนไปทางด้านขวา (ตามเข็มนาฬิกา) โดยลูกบอลก็จะเริ่มหมุนไปเรื่อย ๆ ตามแรงหมุน เมื่อหมดแรงหมุนแล้วลูกบอลหยุดตรงช่องหมายเลขใด ก็จะนำหมายเลขนั้นแหล่ะออกเป็นผลรางวัล
ซึ่งรูปแบบของการแทงความเสี่ยงต่ำ และ ความเสี่ยงสูง สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- แทงค่อม 6 หมายเลข : คือการเลือกแทงตำแหน่งเดียว แต่แทงลงไปได้ 6 หมายเลขพร้อม ๆ กัน แต่มีข้อแม้ว่าจะแทงได้เฉพาะหมายเลขที่เรียงอยู่ในแถวเดียวกัน 2 แถว เช่น 25-26-27-28-29-30, 31-32-33-34-35-36
- แทงค่อม 4 หมายเลข : คือการเลือกแทงตำแหน่งเดียว แต่แทงลงไปได้ 4 หมายเลขพร้อม ๆ กัน แต่มีข้อแม้ว่าจะแทงได้เฉพาะหมายเลขที่อยู่บริเวณใกล้กัน หรืออยู่ติดกัน เช่น 10-11-13-14 , 16-17-19-20
- แทงค่อม 3 หมายเลข : คือการเลือกแทงตำแหน่งเดียว แต่แทงลงไปได้ 3 หมายเลขพร้อม ๆ กัน แต่มีข้อแม้ว่าจะแทงได้เฉพาะหมายเลขที่เรียงอยู่ในแถวเดียวกัน 1 แถว เช่น 34-35-36 , 31-32-33
- แทงค่อม 2 หมายเลข : คือการเลือกแทงตำแหน่งเดียว แต่แทงลงไปได้ 2 หมายเลขพร้อม ๆ กัน แต่มีข้อแม้ว่าจะแทงได้เฉพาะหมายเลขที่อยู่ติดกันบนกระดาน เช่น 11-12, 20-21
- เต็งหมายเลข : คือการเลือกแทงหมายเลขแบบตรง ๆ เพียงตัวเดียว แต่จะแทงกี่หมายเลขก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัด โดยมีหมายเลขให้เลือกแทงได้ตั้งแต่หมายเลข 0 – 36 เลย
ทั้งนี้ตำแหน่งของการวางเดิมพันที่อยู่ด้านบนนี้ จะเป็นรูปแบบการเดิมพันที่อยู่ในประเภทกลุ่มความเสี่ยงสูง จึงส่งผลต่ออัตราการจ่ายที่สูงเหมือนกัน อย่างไรก็ตามเมื่อจ่ายสูงโอกาสที่จะถูกรางวัลก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับรูปแบบของการแทงที่ความเสี่ยงต่ำ
ในขณะเดียวกันหากใครที่มีทุนการเล่นที่ไม่เยอะมาก ก็ควรเลือกตำแหน่งเดิมพันที่มีความเสี่ยงต่ำ เพราะเมื่อมีความเสี่ยงต่ำมากแค่ไหน ก็เท่ากับว่าเพิ่มโอกาสให้ถูกรางวัลได้มากขึ้นนั่นเอง โดยตำแหน่งการเดิมพันมีดังต่อไปนี้
- เต็งโซน : การเลือกแทงในตำแหน่งโซน จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนให้ผู้เล่นได้เลือกแทง คือ 1st 12, 2nd12, 3rd12 ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีหมายเลขกำกับอย่างละ 12 หมายเลข
- เต็งแถว : ในการเลือกแทงตำแหน่งแถวก็มีการแบ่งออกเป็น 3 แถมให้ผู้เล่นได้เลือกแทง คือ 1st, 2nd, 3rd ซึ่งแต่ละแถวก็จะมีหมายเลขกำกับอย่างละ 12 หมายเลข
- สูง (19-36) – ต่ำ (1-18) : การเลือกแทงตำแหน่งนี้จะเป็นการเลือกระหว่าง สูง หรือ ต่ำ โดยจะแบ่งตำแหน่งต่ำอยู่ระหว่างหมายเลข 1 – 18 และตำแหน่งสูงก็จะแบ่งช่วงระหว่างหมายเลข 19-36 นั่นเอง
- คู่ – คี่ (Even – Odd) : คือการเลือกแทงตำแหน่งที่อยู่ระหว่างเลข คู่ และ เลข คี่ โดยเลขคู่จะเป็นหมายเลขอะไรก็ได้ที่หารสองแล้วลงตัวไม่มีเศษเหลือ และในตำแหน่งคี่ก็จะเป็นหมายเลขอะไรก็ได้ที่หารสองแล้วมีเศษเหลือ ซึ่งแต่ละตำแหน่งจะมีหมายเลขอยู่ข้างละ 18 หมายเลข
- ดำ – แดง (Black – Red) : การเลือกแทงตำแหน่งที่อยู่ระหว่าง ดำ และ แดง ซึ่งในหมายเลขของรูเล็ตจะมีสีกำกับอยู่แต่ละหมายเลข โดยจะมีอยู่แค่สองสี คือ สีดำ และ สีแดง แต่ก็ยังมีหนึ่งหมายเลขที่เป็นสีเขียว นั่นก็คือ หมายเลข 0 เมื่อลูกบอลไปตกอยู่ตรงตำแหน่งหมายเลข 0 ก็หมายความว่าคุณไม่ถูกรางวัล
ไขข้อสงสัยบาคาร่าไลฟ์สด เล่นอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมคุณอาจสนใจบทความนี้ อ่านต่อ บาคาร่าไลฟ์สด คืออะไร
แต่ละตำแหน่งมีอัตราการจ่าย
ในส่วนของอัตราการจ่ายนั่น จะแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบที่มีความเสี่ยงต่ำ และ ความเสี่ยงสูง ดังนี้
สูตรเดินเงินรูเล็ต
อย่างที่เคยกล่าวไว้ในบทความอื่น ๆ ว่าสูตรเดินเงินมีหลายสูตรที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับเกมรูเล็ตได้ด้วย เช่น สูตรเดินเงินลาบูเชอร์, สูตรเดินเงินอัตราคงที่, สูตรเดินเงิน Martingale, สูตรเดินเงิน Super Martingale, Winning Martingale และสูตรเดินเงินอัตราเพิ่มคงที่ ซึ่งนอกจากตัวอย่างที่แนะนำมายังมีสูตรเดินเงินอื่น ๆ อีกหลากหลายให้เลือกนำมาใช้
แต่สำหรับในบทความนี้เราจะนำเอาสูตรเดินเงินที่ถือได้ว่าเป็นสูตรใหม่ เพิ่งเปิดเผยออกมาให้กับนักพนันเมื่อไม่นานมานี้ และแน่นอนว่าสามารถสร้างกำไรได้เยอะมาก โดยสูตรนี้จะถูกเรียกว่า สูตรเดินเงิน Winning Martingale และสูตรเดินเงิน Super Martingale
สูตรเดินเงิน Winning Martingale
สูตรเดินเงิน Martingale คงพอทำให้นักพนันหลายท่านคุ้นหูกันมาบ้าง เพราะจัดว่าเป็นสูตรดั้งเดิมเลยทีเดียว แต่สำหรับสูตรเดินเงิน Winning Martingale จะเป็นการนำสูตรเดินเงิน Martingale มาปรับใช้ขึ้นใหม่ มีข้อแตกต่างของทั้งสูตรคือ จะลงเดิมพันด้วยการสลับฝั่งกัน ซึ่งสูตร Winning Martingale จะเพิ่มวงเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อชนะ โดยวิธีการเดินเงินจะมีลักษณะ ดังต่อไปนี้
- ชนะเดิมพัน : ให้เพิ่มจำนวนเงินเดิมพันลงไปเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด อาทิ ในรอบแรกที่เล่นเดิมพันไป 1 หน่วย ผลออกมาชนะ พอถึงรอบถัดไปก็ให้ลงเดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด ซึ่งก็คือ 2 หน่วย ถ้าผลยังออกมาชนะอีกก็ให้เพิ่มแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะแพ้ (1-2-4-8-19)
- แพ้เดิมพัน : เมื่อเดิมพันรอบแรก 1 หน่วย ผลออกมาแพ้ พอมาถึงรอบต่อไปก็ให้เดิมพันไปที่ 1 หน่วยเท่ากับรอบแรก โดยทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาว่าคุณเป็นฝ่ายชนะติดต่อกัน (1-1-1-1)
ในสูตร Winning Martingale มีข้อแนะนำเพิ่มเติม คือก่อนที่จะเริ่มเล่นคุณควรที่จะกำหนดกำไรที่คาดหวังเอาไว้ก่อนว่าได้เท่าไหร่แล้วถึงจะหยุด หรือกำหนดว่าหากชนะติดต่อกันกี่แล้วหยุด จากนั้นก็ค่อยเริ่มนับ 1 ใหม่ เพราะหากว่าเล่นไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้กำหนดเป้าหมายเอาไว้ เมื่อเล่นแพ้ 1 ครั้ง คุณก็จะกลับมาเริ่มต้นเล่นใหม่ กำไรที่เก็บ ๆ เอาไว้ก็จะหายวับไปในพริบตา
**หมายเหตุ : 1 หน่วยจะเท่ากับกี่บาทก็ได้ ขึ้นอยู่กับทางคาสิโนกำหนด เช่น 1 หน่วย อาจจะเท่ากับ 100 , 500 หรือ 1,000 บาท
สูตรเดินเงิน Super Martingale
เมื่อรู้จักกับสูตรเดินเงิน Martingale แล้ว ก็ควรที่จะต้องรู้จักกับสูตรเดินเงินที่อัพเลเวลขึ้นมาเป็นสูตรเดินเงิน Super Martingale โดยสูตรนี้จะเป็นการเพิ่มวงเงินเดิมพันเมื่อผลออกมาแพ้ สูงกว่าสูตรเดินเงิน Martingale ในขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าสูตรเดินเงิน Martingale ด้วยเช่นกัน เพราะหากผลออกมาว่าคุณเล่นแพ้ติดต่อกันเกิน 5 ครั้งติด ๆ อาจจะส่งผลให้คุณถึงกับหมดตัว หรือ ล้มละลายได้เลยเช่นกัน
สูตรเดินเงิน Super Martingale จะมีรูปแบบการเล่นด้วยการเพิ่มวงเงินเดิมพันจากรอบล่าสุดเป็นสองเท่าและบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1 หน่วย โดยมีข้อแม้ว่าผลพนันจะออกมาแพ้เท่านั้น เพราะเมื่อชนะก็จะต้องกลับไปลงเดิมพันเท่ารอบแรกที่เล่น ทั้งนี้สูตรเดินเงิน Super Martingale จะใช้ขั้นตอนการเดินเงิน ดังนี้
- ชนะเดิมพัน : หลักการเดิมพันเท่าเดิม คือในรอบแรกลงเดิมพันไปที่ 1 หน่วย หากผลออกมาว่าชนะ ในรอบต่อไปก็จะลงเดิมพันที่ 1 หน่วยเท่าเดิม โดยจะลงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาแพ้ (1-1-1-1-1-1)
- แพ้เดิมพัน : เพิ่มเดิมพันขึ้นเป็นสองเท่าจากรอบล่าสุดแล้ว+1 หน่วย กล่าวคือ รอบแรกให้ลงเดิมพันไป 1 หน่วย ผลออกมาแพ้ ในรอบถัดไปก็จะให้ลงเดิมพันเพิ่มสองเท่า+1 คือ 3 หน่วย และถ้าผลออกมาแพ้อีก ในรอบต่อไปก็จะต้องลงเดิมพันเป็น 7 หน่วย โดยจะลงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาชนะ (1-3-7-15-31)
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับสูตรเดินเงิน Super Martingale ไม่เหมาะกับคนที่ดวงไม่ดี และผลออกมาแพ้ติดต่อกันหลาย ๆ รอบ ยิ่งถ้าเป็น 5 รอบขึ้นไป ควรหยุดเล่นไปก่อน หรือเปลี่ยนไปเล่นสูตรใหม่ดู เพราะหากใช้สูตรนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แล้วผลออกมาว่าแพ้อีกก็อาจจะทำให้คุณถึงขั้นหมดตัวได้เลย ฉะนั้นคุณจึงต้องมีต้นทุนที่นำมาเล่นสูงเสียหน่อย ถึงจะรอด
สูตรเดินเงินรูเล็ตที่นำมาฝากกันนี้รับรองว่าเป็นสูตรที่สามารถสร้างกำไรให้กับคุณได้มากมายอย่างแน่นอน แต่อย่าลืมว่าอาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงที่จ่ายเยอะด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่บอกว่าถ้าแพ้ติดต่อกันก็ส่งผลให้คุณหมดตัวได้เลย แต่ถ้าพกดวงดี ๆ ไปเล่นสามารถชนะติดต่อกันไปเรื่อย ๆ งานนี้รวยชนิดไม่รู้ตัว เก็บเงินเข้ากระเป๋าแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว