กติกาสูตรเดินเงินเสือมังกร อัตราการจ่ายที่ไม่ธรรมดา

( กติกาสูตรเดินเงินเสือมังกร อัตราการจ่ายที่ไม่ธรรมดา ) จากที่เราเคยแนะแนวสูตรเดินเงินอื่น ๆ อย่างสูตร Martingale, Super Martingale มาให้กับนักพนันที่สนใจอยากหาสูตรเดินเงินดี ๆ ไปแล้วนั้น และมาในบทความนี้เราจึงได้นำสูตรเดินเงินสุดเจ๋งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สูตรเดินเงินประเภทอื่น ๆ ซึ่งในเกมเสือมังกรก็มีสูตรเดินเงินเสือมังกรด้วยเช่นกัน โดยจะมีวิธีการเล่นและกฎกติกาอย่างไร มาลองดูกันดีกว่า ยิ่งท่านใดที่ไม่เคยสัมผัสเกมนี้มาก่อนจะได้รู้ละเอียดก็งานนี้แหล่ะ

คุณที่กำลังมองหาวิธีเล่นไพ่เสือมังกร อาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน  เกมไพ่เสือมังกร ออนไลน์ เล่นไม่ยากแค่ต้องรู้วิธี

Dragon Tiger (เสือมังกร)

ใครที่เคยเล่นเกมไพ่บาคาร่ามาก่อน รับรองว่าสามารถเล่นเกม เสือมังกรได้อย่างแน่นอน เพราะเกมไพ่ เสือมังกรก็เป็นเกมไพ่เหมือนกันกับบาคาร่า มีข้อแตกต่างก็เพียงแค่ เกมไพ่ เสือมังกรจะมีการแจกไพ่แค่เพียงใบเดียวเท่านั้น และในแต่ละรอบของการเล่นจะใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก จึงทำให้เกมไพ่ เสือมังกรเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมมากไม่แพ้กับเกมไพ่บาคาร่าเช่นเดียวกัน

สำหรับขั้นตอนการเล่นอย่างที่กล่าวไว้ว่าจะมีความเหมือนกับเกมไพ่บาคาร่า คือ จะให้นักเดิมพัน เลือกตัดสินใจว่าจะเลือกเดิมพันฝั่งไหน ระหว่าง ฝั่งเสือ กับ ฝั่งมังกร หากว่าฝั่งไหนมีแต้มที่มากกว่า หรือได้แต้มเยอะสุดที่ 13 แต้ม (ไพ่ K) และได้แต้มน้อยที่สุดคือ 1 แต้ม (ไพ่ A) อีกทั้งเกมไพ่ เสือมังกร ยังมีความเสี่ยงต่ำ อัตราการแพ้ของเกมแพ้ชนะจะอยู่ที่ 50 : 50

คุณที่กำลังมองหาสูตรเดินเงินบาคาร่า ลองดูจากบทความนี้ คลิกอ่าน สูตรเดินเงินยอดฮิต มาติงเกล 

กฎกติกาการเล่นไพ่ เสือมังกร

สำหรับกติกาของการเล่นไพ่ เสือมังกร นั้น คุณจะมีโอกาสในการเลือกวางเดิมพันในเกมได้ 3 ตำแหน่ง คือ มังกรชนะ, เสือชนะ หรือ เสมอ โดยในการเล่นเกมแต่ละรอบจะให้เวลาผู้เล่นในการเดิมพันอยู่ที่ประมาณ 15 – 40 วินาที (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเว็บไซต์หรือโต๊ะที่เลือกเล่นด้วย) เมื่อหมดเวลาแล้วดีลเลอร์จะทำการหยุดรับวางเดิมพันแล้วเริ่มขั้นตอนแจกไพ่ จากนั้นก็ตัดสินผลแพ้ชนะ

เมื่อเวลาให้ลงเดิมพันหมดลง ดีลเลอร์ก็จะเริ่มทำการแจกไพ่ให้กับฝั่งเสือ 1 ใบ และ ฝั่งมังกร 1 ใบ จากนั้นก็จะหงายไพ่ ซึ่งเกมไพ่ เสือมังกร จะมีแต้มไพ่มากที่สุด คือ ไพ่ 13 แต้ม (ไพ่ K) และไพ่แต้มที่น้อยสุด คือ ไพ่ 1 แต้ม (A) ส่วนผลการตัดสินแพ้ชนะ จะดูจากฝั่งไหนที่ได้แต้มมากที่สุดหรือใกล้เคียงกับ 13 แต้มก็จะเป็นฝ่ายชนะในเกมไป

อัตราการแพ้ชนะของไพ่เสือมังกรจะอยู่ที่ 50 : 50 หมายความว่าถ้าคุณวางเดิมพันที่เสือชนะ หรือ มังกรชนะ ก็จะเสียเงินเดิมพันแค่เพียง 50% คือ ครึ่งหนึ่งของวงเงินที่เดิมพันลงไปทั้งหมด เช่น ถ้าคุณเดิมพันมังกร 100 บาท แต่ผลของเกมออกมาเสมอกัน คุณก็จะได้รับเงินคืน 50 บาท แล้วเสียไป 50 เท่านั้น

ตำแหน่งของการวางเดิมพันไพ่ เสือมังกร

การวางเดิมพันไพ่ เสือมังกร ของเกมพนันคาสิโนสด จะมีการวางเดิมพันอยู่ที่ 3 ตำแหน่ง คือ เสือชนะ, มังกรชนะ และ เสมอ ซึ่งจะมีรายละเอียดตามนี้

1.วางเดิมพันฝั่ง : เสือชนะ

สำหรับการวางเดิมพันตำแหน่งเสือชนะ หมายความว่า หากไพ่ฝั่งเสือได้แต้มของไพ่ที่ออกมาใกล้เคียงกับ 13 แต้ม หรือมากกว่าแต้มของฝั่งมังกร เสือก็จะเป็นฝ่ายชนะไป

2.วางเดิมพันฝั่ง : มังกรชนะ

สำหรับการวางเดิมพันตำแหน่งมังกรชนะ หมายความว่า หากไพ่ฝั่งมังกรได้แต้มของไพ่ที่ออกมาใกล้เคียงกับ 13 แต้ม หรือมากว่าแต้มของฝั่งเสือ มังกรก็จะเป็นฝ่ายชนะไป

3.วางเดิมพัน : เสมอ

สำหรับการวางเดิมพันในตำแหน่งนี้จะได้ผลชนะก็ต่อเมื่อแต้มของทั้งฝั่งออกมาเท่ากัน บอกเลยว่ากรณีที่จะออกมาเท่ากันได้นั้น เป็นไปค่อนข้างยากมาก และเพราะความที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยจึงส่งผลให้อัตราการจ่ายเงินเดิมพันของตำแหน่งนี้จึงมีอัตราการจ่ายที่สูง

เกมไพ่เสือมังกร มีอัตราการจ่ายเงินอย่างไร

อัตราการจ่ายเงินของเกมไพ่เสือมังกรก็จะมีการจ่ายเงินให้แค่เพียง 3 ตำแหน่ง คือ

วิธีเล่นไพ่ เสือมังกร

1. ก่อนที่เกมจะเริ่มเล่น คุณต้องเลือกก่อนว่าจะวางเดิมพันตำแหน่งไหนดี ระหว่าง มังกร, เสือ และเสมอ

2. เมื่อเลือกฝั่งที่ต้องการเล่นได้แล้วดีลเลอร์ก็จะดำเนินการแจกไพ่ให้กับทั้งสองฝั่ง โดยแจกให้ฝั่งละ 1 ใบ คือ เสือ 1 ใบ, มังกร 1 ใบ

3. จากนั้นก็จะทำการเปิดไพ่เพื่อนับแต้มจากไพ่ที่แจก หากฝั่งไหนที่ได้แต้มเยอะกว่าถือว่าเป็นฝั่งชนะ และได้รับเงินที่วางเดิมพันไป

4. สำหรับเกมไพ่ เสือมังกร จะไม่มีการแจกไพ่เพิ่มให้กับผู้เล่นเหมือนกับเกมไพ่บาคาร่า

จุดเด่นของเกมไพ่ เสือมังกร

1. อัตราการจ่ายเงินรางวัลมีความยุติธรรม และจ่ายค่อนข้างเยอะ เพราะอัตราแพ้ชนะจะจ่ายที่ 50:50

2. เป็นเกมที่เล่นได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องวางแผนการเล่น เพราะแค่เลือกว่าจะเดิมพันฝั่งไหนที่คาดว่าจะได้แต้มมากกว่า

3. เหมาะกับผู้ที่ชอบเล่นเกมพนันที่จบเร็ว รู้ผลแพ้ชนะใช้เวลาไม่นาน

จุดด้อยของเกมไพ่ เสือมังกร

1. ถึงเกมจะรู้ผลแพ้ชนะอย่างรวดเร็ว แต่หากไม่ได้พกดวงไปเล่นด้วยก็ทำให้เสียไวด้วยเช่นกัน ในทางเดียวกันก็จะทำให้เงินในกระเป๋าหมดลงได้เร็วเช่นกัน

2. มีไพ่ให้ลุ้นน้อย แค่ใบเดียว แถมยังไม่สามารถเลือกไพ่เพิ่มได้อีก จึงไม่เหมาะกับคนที่ชอบลุ้นไพ่แบบยาวๆ

3. ตำแหน่งการเล่นให้เลือกก็น้อย เพราะมีให้เลือกเล่นได้เพียงแค่ 3 ตำแหน่ง จึงมีโอกาสที่จะเสียมากกว่าได้ (แต่ในบางคาสิโนอาจจะมีตำแหน่งให้เลือกเพิ่มขึ้นเป็น 5 ตำแหน่ง)

นับแต้มเกมไพ่ เสือมังกร

วิธีนับแต้มของเกมไพ่เสือมังกร จะมีวิธีการนับที่ง่าย ๆมาก ๆ คือ จะนับเรียงตามอักษรของไพ่ได้เลย โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

K          แต้มเท่ากับ         13 แต้ม

Q          แต้มเท่ากับ         12 แต้ม

J          แต้มเท่ากับ         11 แต้ม

2 – 10   จะนับแต้มตามตัวเลขที่อยู่บนหน้าไพ่ อย่างเช่น หน้าไพ่ 3 ก็จะเท่ากับ 3 แต้ม หน้าไพ่ 6 ก็เท่ากับ 6 แต้ม

A          แต้มเท่ากับ         1 แต้ม

สูตรเดินเงินของ เกมเสือมังกร

เกมไพ่จะมีสูตรเดินเงินที่ได้รับความนิยมอยู่หลายสูตร โดยที่แต่ละสูตรจะสามารถนำมาใช้ประยุกต์เล่นเกมไพ่ เสือมังกร ได้ อาทิเช่น สูตรเดินเงิน Martingale, Winning Martingale, Super Martingale, สูตรเดินเงิน 1324, สูตรเดินเงิน ลาบูเชอร์, สูตรเดินเงินอัตราเพิ่มคงที่ นอกจากนั้นยังมีสูตรเดินเงินอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ลองนำไปเล่น

แต่ถ้าจะให้แนะนำครบทุกสูตรคงจะจดจำกันได้ไม่หมด เราจึงได้คัดเลือกสูตรที่ได้รับความนิยมและเซียนพนันการันตีว่าเป็นสูตรที่ช่วยทำกำไรได้มากที่สุด ซึ่งก็คือ สูตรเดินเงิน Martingale

สูตรเดินเงิน Martingale

 สำหรับสูตรนี้หลายคนคงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นสูตรยอดนิยมที่เห็นผลว่าสามารถช่วยทำกำไรได้จริง ยกเว้นว่าคุณจะไม่มีดวงกับเกมพนันเอาเสียเลย แต่ทั้งนี้สูตร Martingale ถึงจะยอดเยี่ยม ก็ยังคงมีข้อเสียอยู่บ้างคือ หากว่าเล่นแพ้ติดต่อกันเกิน 5 รอบขึ้นไปก็จะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังจะหมดตัวลงแบบช่วยไม่ได้

สาเหตุเพราะสูตรเดินเงิน Martingale จะใช้หลักการวางเดิมพันเพิ่มเป็นสองเท่าของยอดเงินเดิมพันรอบล่าสุด เมื่อเล่นแพ้ก็จะใช้หลักการวางเงินแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะชนะในเกม และหากชนะก็จะย้อนกลับไปวางเดิมพันที่ 1 หน่วยใหม่เหมือนตอนแรก โดยสูตร Martingale ก็จะใช้วิธีการเดินเงิน ดังนี้

• เมื่อผลออกมาแพ้ : คุณจะต้องวางเดิมพันเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่าของรอบล่าสุด คือ ในรอบแรก วางเดิมพันลงไป 1 หน่วย ผลออกมาแพ้ ในรอบต่อไปก็ให้ลงเดิมพันเพิ่มขึ้นเป็น 2 หน่วย แต่ถ้าผลยังออกมาแพ้อีก รอบถัดไปก็จะต้องวางเดิมพันเพิ่มเป็น 4 หน่วย เล่นต่อไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาเป็นฝ่ายชนะ หรือ  1 – 2 – 4 – 8 – 16
• เมื่อผลออกมาชนะ : คุณเริ่มวางเดิมพันเท่าเดิม คือ ในรอบแรกลงเดิมพันไป 1 หน่วย หากชนะ รอบต่อไปก็จะต้องลงเดิมพันแค่ 1 หน่วยเท่ารอบแรก และวางต่อไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ผลแพ้ 1 – 1 – 1 – 1 –

ข้อสำคัญของสูตรเดินเงิน Martingale คือ ถ้าคุณเริ่มแพ้ติดต่อกันเกิน 5 รอบขึ้นไป ให้หยุดเล่นในห้องนี้ทันที ถ้าอยากจะเล่นต่อก็ควรย้ายไปเล่นห้องใหม่ หรือหยุดเล่นไปเลย ไว้วันหลังค่อยกลับมาเล่นใหม่ก็ยังไม่สาย เพราะอัตราการแทงผลที่จะออกมาแพ้ติดต่อกัน 5 รอบเป็นได้ค่อนข้างยากมาก และหากว่าเกิดขึ้นก็จะส่งผลให้คุณหมดตัวได้เลย สูตรนี้ถ้าใครอยากจะนำไปใช้คงต้องมีเงินทุนในการเล่นมากพอสมควร

ทั้งนี้ 1 หน่วยจะเท่ากับกี่บาทก็ได้ เช่น 1 หน่วยอาจจะมีค่าเท่ากับ 100 หรือ 1,000 บาทก็ได้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรเดินเงิน เสือมังกร คงจะพอทำให้คุณเข้าใจได้ไม่ยาก โดยสูตรเดินเงิน Martingale ที่นำมาใช้เล่นก็สามารถนำไปใช้ได้กับเกมคาสิโนสดเกมอื่น ๆ อาทิ บาคาร่า, รูเล็ต, ไฮโล, เสือมังกร หรือ น้ำเต้าปูปลา ถือได้ว่าเป็นสูตรเดินเงินเด็ดที่นำไปเล่นหากำไรคาสิโนได้จริง ๆ ชนิดที่ว่าเกือบจะทุกคาสิโนเลยทีเดียว