อัตราจ่ายรูเล็ตของแต่ละเดิมพันจ่ายอย่างไรบ้าง

( อัตราจ่ายรูเล็ตของแต่ละเดิมพันจ่ายอย่างไรบ้าง ) รูเล็ตในคาสิโนออนไลน์เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมจากนักพนันลักษณะของเกมจะเป็นตาราง มีรูปแบบการเล่นด้วยการทายสุ่มเลือกหมายเลขทั้งหมด 37 หมายเลข ตั้งแต่ 0-36 เรียงเป็นช่องว่างอยู่ในวงล้อหมุนแบ่งเป็นหมายเลข สีดำ สีแดง ข้างละ 18 หมายเลข และสีเขียวตรงตำแหน่งหมายเลข 0 ให้ผู้เล่นได้เลือกว่าจะวางเดิมพัน

หากไม่อยากพลาดกับเทคนิคเอาชนะเกมรูเล็ต ต้องคลิกอ่าน  8 กลยุทธ์เอาชนะเกมรูเล็ตที่ใครพลาดแล้วต้องเสียดาย!!!

ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปให้รู้จักกับการเล่นรูเล็ตว่ามีวิธีการเล่นอย่างไร อัตราจ่ายของแต่ละตำแหน่งอยู่ที่เท่าไหร่ รวมทั้งตำแหน่งของการวางชิปแบบไหน รับรองว่าคุณจะได้รู้จักอย่างทะลุปรุโปร่งชนิดที่ว่าเป็นมือใหม่ก็เล่นได้ไม่ยาก

แต่ละตำแหน่งมีอัตราการจ่ายอย่างไร

 หลัก ๆ แล้วอัตราการจ่ายของเกมรูเล็ตคาสิโนออนไลน์ จะมีอยู่ด้วยกันที่ประมาณ 10 ตำแหน่ง ที่นักพนันให้ความนิยมในการวางเดิมพันโดยจะมี ดังนี้

1. เต็งเลข (มีอัตราการจ่าย 35 เท่า)

เป็นการแทงรูปแบบให้เลือกแทงตรง ๆ เลือกเจาะจงตัวเลขทั้งหมด 37 ตัวเลข ตั้งแต่หมายเลข 0-36 ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกแทงทีละ 1 หมายเลข หรือจะแทงหลาย ๆ เลขก็ได้อยู่ที่ความชอบใจ

2. แดง-ดำ (มีอัตราการจ่าย 1 เท่า)

นอกจากการแทงแบบเจาะจงหมายเลข นักพนันยังเลือกแทงแบบเลือกสีได้อีกด้วย โดยเป็นการเลือกสี ดำ กับ แดง ซึ่งแต่ละสีก็จะมีค่าแตกต่างกัน ในขณะเดียวกันจำนวนเลของทั้งสองสี (18 เลข) ก็เท่ากันด้วย

แดง = 1, 3, 5, 7, 9, 12, 14, 16, 18, 19, 21, 23, 25, 27, 30, 32, 34, 36

ดำ = 2, 4, 6, 8, 10, 11, 13, 15, 17, 20, 22, 24, 26, 28, 29, 31, 33, 35

3. คู่-คี่ (มีอัตราการจ่าย 1 เท่า)

การเลือกแทงแบบนี้ผู้เล่นจะต้องเลือกแทงระหว่าง คู่ กับ คี่ โดยจะมีหมายเลขอยู่ฝั่งละ 18 หมายเลขเหมือนกับแดง-ดำ คือ

เลขคี่ (จะเป็นเลขที่เมื่อนำมาหาร 2 แล้วไม่ลงตัว) = 1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, 21, 23, 25, 27, 29, 31, 33, 35

เลขคู่ (จะเป็นเลขที่เมื่อนำมาหาร 2 แล้วลงตัว) = 2, 4, 6, 8, 10, 12, 14, 16, 18, 20, 22, 24, 26, 28, 30, 32, 34, 36

4. สูง-ต่ำ (มีอัตราการจ่าย 1 เท่า)

 ส่วนการแทงแบบนี้มีให้เลือกแทง 2 แบบ คือ แบบ สูง กับ แบบ ต่ำ ซึ่งแต่ละฝ่ายก็จะมีหมายเลขเท่ากันคืออย่างละ 18 หมายเลข

ต่ำ = 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18

สูง = 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36

5. เต็งโซน (มีอัตราการจ่าย 2 เท่า)

การแทงแบบเต็งโซนจะแบ่งออกได้เป็น 3 โซน คือ 1 st12/ 2 nd12/ 3 rd12 ซึ่งแต่ละโซนก็จะให้หมายเลขแตกต่างกันออกไป คือ

1 st12 = 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12

2 nd12 = 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24

3 rd12 = 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36

6. เต็งแถว (มีอัตราการจ่าย 2 เท่า)

รูปแบบนี้จะเป็นการแถวมีอยู่ทั้งหมด 3 แถวด้วยกัน คือ 1 st/ 2 nd/ 3 rd ซึ่งแต่ละแถวจะมีหมายเลข คือ

1 st = 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34

2 nd = 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32, 35

3 rd = 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36

7. ค่อม 2 เลข (มีอัตราการจ่าย 17 เท่า)

เป็นการเลือกแทง 2 เลขที่อยู่ติดกัน ด้วยการนำชิปไปวางบนเส้นระหว่างที่ 2 ตัวเลขอยู่ใกล้กัน เช่น 21,24 เป็นต้น

8. ค่อม 3 เลข (มีอัตราการจ่าย 11 เท่า)

เป็นการแทงเลข 3 ตัวที่เรียงกันจากแถวด้านล่างขึ้นไปด้านบน ด้วยการนำชิปไปวางไว้บนเส้นด้านล่างของแถว ตามภาพตัวอย่างข้างบนก็จะได้แก่ 10,11,12 เป็นต้น

9. ค่อม 4 เลข (มีอัตราการจ่าย 8 เท่า)

เป็นการเลือกแทงเลข 4 ตัวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ด้วยการนำชิปไปวางบนเส้นตัดของเลข 4 ตัวที่อยู่ใกล้กัน จากตัวอย่างข้างบนจะได้แก่เลข 1, 15, 17, 19

10. ค่อม 6 เลข (มีอัตราการจ่าย 5 เท่า)

เลือกแทงเลข 6 ตัวที่เรียงกัน 2 แถวจากด้านล่างไปด้านบน ด้วยการนำชิปไปวางระหว่างเส้นด้านล่างของแถว19, 2, 21, 22, 23, 24

ตำแหน่งเดิมพันที่นักพนันนิยมเล่นมากที่สุด

อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเกมรูเล็ตคาสิโนออนไลน์มีวิธีการเล่นให้เลือกแทงอยู่มากมาย แต่รูปแบบที่นักพนันส่วนใหญ่นิยมนำไปใช้ในการวางเดิมพัน จะมี แดง-ดำ, คู่-คี่, สูง-ต่ำ นั่นเป็นเพราะมีอัตราความเสี่ยงที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ประมาณ 50:50 แต่ทว่ากำไรที่จะได้รับก็น้อยเหมือนกันอยู่ที่ 1 เท่า แค่นั้นเอง ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไปอยู่ที่ผู้เล่นว่าจะชอบเล่นแบบไหนก็เลือกได้ตามความพอใจได้เลย

ใครที่อยากหัดเล่นรูเล็ต คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน วิธีเล่นรูเล็ตแบบเข้าใจทะลุปรุโปร่ง เล่นตามแบบง่าย ๆ

การเล่นรูเล็ตสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นจะต้องนึกถึงอยู่เสมอคืออัตราการจ่ายมีทั้งแบบที่ได้กำไรเยอะ กับ ได้น้อย ขึ้นกับความเสี่ยงของแต่ละรูปแบบ กรณีที่ได้กำไรเยอะก็จะมีอัตราการเสี่ยงที่สูงมาก แต่ถ้ารูปแบบที่มีอัตราการเสี่ยงน้อย แน่นอนว่ากำไรที่ได้รับก็จะได้น้อยตามไป ฉะนั้นการเล่นแต่ละครั้งควรที่จะเผื่อใจรับความเสี่ยงไว้บ้างก็ดี