เทคนิคการเล่น น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ แบบม้วนเดียวจบ
( เทคนิคการเล่น น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ แบบม้วนเดียวจบ ) ใครที่ชอบความสนุกสนานตื่นเต้นของเกมไฮโลกันมาแล้ว ลองมาหาเกมใหม่ ๆ ที่มีวิธีการเล่นคล้าย ๆ อย่างเกม น้ำเต้าปูปลา กันดูบ้างรับรองเลยว่าสนุกไม่แพ้กัน แต่สำหรับนักพนันที่ไม่เคยรู้จักหรือเล่นเกมน้ำเต้าปูปลามาก่อน วันนี้เราจะมาอธิบายขั้นตอนรายละเอียดการเล่นแบบม้วนเดียวจบมาให้กับนักพนันที่สนใจได้รู้จักมากขึ้น
คุณอาจอยากรู้จักเกมน้ำเต้า ปูปลา เกมพนันยอดฮิตจากอดีตถึงปัจจุบัน อ่านต่อ วิธีเล่นน้ำเต้าปูปลาออนไลน์
อะไร คือ เกมน้ำเต้าปูปลา
เป็นเกมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในหมู่นักพนันรุ่นเก่า ๆ มีต้นกำเนินมาจากประเทศจีน มีรูปแบบการเล่นที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเกมไฮโล คือการใช้อุปกรณ์การเล่นด้วยลูกเต๋า 3 ลูก แต่ละด้านจะแบ่งรูปภาพออกเป็น 6 ภาพใช้สัญลักษณ์สัตว์แทน เช่น ปู, ปลา, ไก่, กุ้ง, น้ำเต้า และ เสือ ซึ่งยังเป็นตัวแทนในการออกผลรางวัลอีกด้วย
ความแตกต่างระหว่าเกมไพ่ป๊อกเด้งกับเกมไพ่บาคาร่ามีอะไรบ้าง อ่านต่อ ป๊อกเด้ง กับ บาคาร่า เกมไพ่ที่เหมือนกันในความต่าง
น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ มีรูปแบบการเล่นอย่างไร
อย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า น้ำเต้าปูปลา จะมีวิธีการเล่นที่คล้ายกับเกมไฮโล แตกต่างกันตรงที่หน้าของลูกเต๋าทั้ง 3 รูปจะใช้รูปภาพต่าง ๆ มาแทนการใช้ตัวเลขให้นักพนันเลือกแทง ซึ่งการแทงน้ำเต้าปูปลาจะมีรูปแบบการเลือกแทงได้สองรูปแบบหลัก ๆ คือ แทงแบบสี และ แทงแบบรูปภาพ นอกจากนั้นยังแบ่งวิธีการแทงย่อย ๆได้อีกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะมีวิธีการแทง ดังต่อไปนี้
รูปแบบการเดิมพัน
เกมน้ำเต้าปูปลามีวิธีการเล่น คือจะมีสัญลักษณ์บนลูกเต๋าทั้งหมด 6 ตัวให้ผู้ที่ต้องการเดิมพันเลือกทาย (ปู, ปลา, น้ำเต้า, เสือ, ไก่ และกุ้ง) โดยการออกผลรางวัลจะออกผลครั้งละ 3 ตัว ซึ่งใน 3 ตัวนี้ผลอาจจะออกมาซ้ำกันก็ได้ และเกมน้ำเต้าปูปลายังใช้สีแทนสัญลักษณ์อีก 3 สีหลัก ๆ คือ เขียว น้ำเงิน แดง ในแต่ละรูปภาพก็จะมีแต้มเฉพาะตัวเอง ตามตัวอย่างข้างล่าง
ปลา แทนค่าด้วยสีแดง = 1 แต้ม
กุ้ง แทนค่าด้วยสีเขียว = 2 แต้ม
น้ำเต้า แทนค่าด้วยสีน้ำเงิน = 3 แต้ม
เสือ แทนค่าด้วยสีน้ำเงิน = 4 แต้ม
ปู แทนค่าด้วยสีเขียว = 5 แต้ม
ไก่ แทนค่าด้วยสีแดง = 6 แต้ม
การแทงแบบ สูง – ต่ำ
การแทงเต็งสูง – ต่ำ หรือการเลือกแทงเดิมพันจากการนำคะแนนลูกเต๋ามารวมกันทั้ง 3 ลูก แต้มต่ำ จะเท่ากับ 4-10 คะแนน ส่วนแต้มสูงจะอยู่ที่ 11-17 คะแนน อัตราการจ่ายเงินเดิมพัน = 1:1 ยกตัวอย่างเช่น คุณลงเดิมพันต่ำ 100 บาท เมื่อผลรวมของลูกเต๋า 3 ลูก ออกมาเป็นแบบ (น้ำเต้า = 3 แต้ม + ปู = 5 แต้ม + ปลา = 1 แต้ม) รวมคะแนนทั้งหมดได้ 9 แต้ม ซึ่งหมายความว่าเป็นคะแนนช่วงต่ำ อยู่ระหว่าง 4-10 คะแนน เมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้คุณก็เป็นฝ่ายชนะและได้รับเงินรางวัลจาก อัตราการจ่ายคืนกลับมาอยู่ที่ 200 (รวมทุน 100 บาท)
การแทง เต็งเดี่ยว
เป็นการเลือกแทงสัญลักษณ์รูปภาพแบบเจาะจง มีอัตราการจ่าย 1:1 แต่ถ้าหากว่าคุณแทงแล้วออกผลในรอบที่เล่นมากกว่า 1 ตัว ก็จะทำให้อัตราการจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก ออกซ้ำ 2 จ่าย 1:2 เช่น
- ถ้าคุณลงเดิมพัน ปลา 1 ตัว ในราคา 100 บาท แล้วผลรางวัลออกมาคือ ปู : กุ้ง : ปลา หมายความว่าคุณถูกรางวัล จะได้เงินรางวัล 200 บาท รวมทุน 100 บาท
- ถ้าคุณเลือกปลา 1 ตัว วางเดิมพัน 100 บาท แต่รางวัลออกมาเป็น ปลา : ปลา : กุ้ง หมายความว่าคุณถูกรางวัลเบิ้ลเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า คุณก็จะได้รับเงินรางวัลเป็น 300 บาท รวมทุน 100
การแทง เต็งสีเดียว (แดง, น้ำเงิน, เขียว)
เป็นการเดิมพันแบบระบุสีเดียว ซึ่งลูกเต๋าทั้งหมดจะออกผลลัพธ์ออกมาเป็นสัญลักษณ์อะไรก็ได้ แต่ต้องมีหนึ่งลูกที่ออกสีตรงกับที่คุณเลือกเดิมพันเอาไว้ โดยอาจจะเป็น สีแดง / สีเขียว / สีน้ำเงิน ก็ได้ ส่วนอัตราการจ่ายผลรางวัลการแทงรูปแบบนี้จะ 1:1 เช่น หากคุณเลือกเดิมพันสีน้ำเงิน 100 บาท ผลปรากฎว่าลูกเต๋าออกสีน้ำเงินตรงกับสีที่เราเดิมพันไว้ คือ สีน้ำเงินรูปจะออกเป็น (ปู หรือ กุ้ง ก็ได้ ) แล้วหากลูกเต๋าออกหน้าปูหมายความว่า คุณชนะจะได้เงินรางวัลกลับมา 200 บาท รวมทุน 100 บาท แต่ถ้าออก 2 ลูก ก็จะได้เบิ้ลขึ้นเป็น 2 เท่า
ฉะนั้น เวลาลงเดิมพันให้คุณเลือกเดิมพัน 2 สี เช่น เลือก สีน้ำเงิน 100 บาท และ สีเขียว 100 บาท ถ้าผลออกมาเป็นสีเขียว หรือ น้ำเงิน แค่ลูกเดียว ก็เท่ากับว่า คุณยังคงเท่าทุนอยู่ แต่ถ้าผลออกมาเป็นสีแดงทั้ง 2 ลูก คุณก็จะเสีย ซึ่งผลจะออกมาเป็นแบบนี้ค่อนข้างยากมาก มีโอกาสเพียงแค่ 12% ในขณะเดียวกันคุณจะมีโอกาสออกเสมอถึง 65% และโอกาสที่จะชนะ 23% การเลือกลงเดิมพันแบบเลือกสีจะเหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ชอบเสี่ยงมาก ๆ เพราะการแทงแบบนี้แทบจะไม่มีโอกาสเสียเลย
การแทงแบบ เต็งสีคู่
การเดิมพันแบบเต็งสีคู่ คือ การเลือกแทงว่าผลของลูกเต๋าจะออกมาสีเดียวกันไม่ต่ำกว่า 2 โดยสีที่ออกมาจะเป็นหน้าสัญลักษณ์ของสัตว์ชนิดใดก็ได้ เพียงแค่ให้เป็นสีที่คุณวางเดิมพันไว้ก็พอ อัตราการจ่ายของการแทงรูปแบบนี้จะอยู่ที่ 1:3 หมายถึง วางเดิมพัน 50 จะได้ 200 บาท รวมทุน 50 บาท เช่น คุณเลือกวางเดิมพันเต็งสีคู่ สีแดง 50 บาท ผลลัพธ์ออกมาเป็น ไก่ ปลา กุ้ง (สีแดง แดง เขียว) คุณก็จะเป็นฝ่ายชนะได้เงินรางวัล 200 บาท รวมทุน 50 บาท
การแทง ตองสี (แบบไม่เจาะจงสี)
เป็นรูปแบบการเดิมพันว่าหน้าลูกเต๋าจะออกมาเป็นสัญลักษณ์ใดก็ได้ เพียงแต่ต้องออกมาให้ได้ตองสี เช่น ตองสีแดง ( แดง สามอัน อาจจะออกรูป ไก่ ปลา ไก่) หรือ ตองน้ำเงิน (น้ำเงินสาม น้ำเต้า เสือ น้ำเต้า) หรือ ตองเขียว (เขียว สามอัน กุ้ง ปู กุ้ง) อัตราการจ่ายเดิมพันแบบนี้จะอยู่ที่ 1:7 เช่น คุณเดิมพันเขียว 50 บาท ผลลัพธ์ของลูกเต๋าออกมาเป็น (ปู : ปู : กุ้ง) คือ สีเขียวทั้ง 3 เต๋า หมายความว่าคุณเป็นฝ่ายชนะ จะได้เงินรางวัลไป 400 บาท รวมทุน 50 บาท
การแทง ตองสี (แบบเจาะจงสี)
การแทงรูปแบบนี้จะต่างไปจากการแทงตองสีธรรมดา คือคุณต้องเจาะจงเลือกสีที่จะแทงสีใดสีหนึ่งไปเลย (โต๊ะวางเดิมพันส่วนใหญ่จะแยกช่องของแต่ละสีชัดเจน) อัตราการจ่ายของการแทงรูปแบบนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่าแทงแบบตองสีธรรมดาที่ 1:20 กล่าวคือ คุณเดิมพันไว้ 50 บาท หากเป็นฝ่ายชนะก็จะได้ 1,050 บาท รวมทุน 50 บาท อย่างเช่น คุณเดิมพันเลือกเจาะจงสีแดง แล้วผลของลูกเต๋าออกมาเป็น ปลา : ปลา : ไก่ (แดงสาม) , ไก่ ไก่ ปลา (แดงสาม), ปลา ปลา ปลา (แดงสาม), ไก่ ไก่ ไก่ (แดงสาม) หรือจะเป็นไก่ หรือ ปลา ก็ได้ เพียงแต่ให้ออกเป็นสีแดง คุณก็จะเป็นฝ่ายชนะไปในทันที
การแทงตอง (แบบเจาะจงสัญลักษณ์)
นอกจากจะเลือกแทงแบบสีแล้ว ยังมีวิธีการแทงตองหน้าเต๋าออกสัญลักษณ์เหมือนกันทั้งสามลูก ให้ตรงกับที่ผู้เล่นเสี่ยงแทงตามเดิมพันชนิดที่ต้องตรงกันเป๊ะ อัตราเงินวางเดิมพันตอบแทนจะอยู่ที่ 1 : 150 เช่น คุณลงเดิมพันแบบเจาะจงตองกุ้ง 50 บาท ผลลัพธ์ลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมากุ้งหมด 3 ลูก คุณก็จะได้เงินรางวัล 7,550 บาท รวมทุน 50 บาท
การแทงตอง (ไม่เจาะจงสัญลักษณ์)
ส่วนของการแทงแบบตอง โดยไม่สนใจว่าผลจะออกมาเป็นตองสัญลักษณ์รูปภาพใดก็ได้ เช่น ผลอาจจะออกมาเป็น (ตองกุ้ง, ตองปลา, ตองน้ำเต้า, ตองปู, ตองไก่, ตองเสือ) อัตราการจ่ายสำหรับการวางเดิมพันนี้จะอยู่ที่ 1:24 อย่างเช่น คุณวางเดิมพัน 50 บาท ผลลูกเต๋าออกมาเป็น (ตองปู, ตองกุ้ง, ตองปลา, ตองน้ำเต้า, ตองไก่, ตองเสือ) จะออกตองตัวไหนก็ได้หนึ่งตัว คุณก็จะได้รับเงินรางวัลกลับมาถึง 24 เท่า เท่ากับ 1,250 บาท รวมทุน 50 บาทนั่นเอง
การแทงแบบเดิมพันผลรวม
การเลือกแทงในข้อสุดท้ายนี้เป็นการเดิมพันที่ค่อนข้างยากพอสมควร เพราะต้องนับผลรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 หน้าลูกเต๋า หากว่านับแต้มรวมกันทั้งหมดแล้วได้แต้มเท่ากับที่เราวางเดิมพันไว้ หมายความว่าคุณจะเป็นฝ่ายชนะ แต่อัตราการจ่ายเดิมพันแบบนี้จะมีอัตราจ่ายแยกกันออกไปไม่เท่ากัน ดังนี้
- แต้ม 4, 17 อัตราการจ่าย = 1:50
- แต้ม 5, 16 อัตราการจ่าย = 1:18
- แต้ม 15 อัตราการจ่าย = 1:14
- แต้ม 7,14 อัตราการจ่าย = 1:12
- แต้ม 8,13 อัตราการจ่าย = 1:18
- แต้ม 9,10,11,12 อัตราการจ่าย = 1:16
เช่น คุณเดิมพันว่าผลรวมจะออกมาได้ 4 แต้ม ที่ 100 บาท ผลของลูกเต๋า 3 ลูก ได้เป็นสัญลักษณ์ ปลา : ปลา : กุ้ง แต้มที่แทนสัญลักษณ์ คือ ปลา (1) + ปลา (1) + กุ้ง (2) รวมกัน = 4 แต้มพอดิบพอดี หมายความว่า คุณเป็นฝ่ายชนะเพราะผลรวมของแต้มได้เท่ากับที่คุณวางเดิมพันเอาไว้ แล้วเงินรางวัลที่คุณจะได้อยู่ที่ 5,100 บาท รวมทุน 100 บาท
เกมน้ำเต้าปูปลา มีข้อดีอะไรบ้าง
- ผลตอบแทนคุณค่ามีอัตราการจ่ายสูงสุดถึง 150 เท่าด้วยกัน กรณีที่เลือกวางเดิมพันภาพที่อยู่บนหน้าเต๋าซ้ำกันทั้ง 3 ลูก จะเรียกว่า การเดิมพัน เจาะจงตอง (สัญลักษณ์) เช่น คุณวางเดิมพันเจาะจงตอง กุ้ง 50 บาท ผลของลูกเต๋าออกมาเป็น กุ้งทั้ง 3 ลูก คุณก็ได้รับเงินรางวัลไป 7,550 บาท รวมทุน 50 บาท
- เลือกเล่นแบบทายสีก็ได้ โดยจะมีสีให้เลือก แดง, น้ำเงิน และ เขียว ซึ่งการเลือกแทงแบบสีในเกมไฮโลจะไม่มีการเดิมพันลักษณะนี้ ช่วยให้การเล่นหลากหลายมากขึ้น
- เงินทุนน้อยก็เล่นได้ เพราะวางเดิมพันขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 10 บาท
- โต๊ะเดิมพันมีหลายโต๊ะให้เลือกเล่น แถมยังมีเกือบทุกคาสิโน และถึงจะเป็นเกมเก่าที่เล่นมานานแล้ว ในปัจจุบันก็ยังเป็นเกมยอดฮิตอยู่เหมือนกัน
สำหรับบทความในข้างต้นทั้งหมดที่เรานำมาฝากกันนี้ คงพอทำให้นักเดิมพันพอเข้าใจแล้วว่า เกมน้ำเต้าปูปลา เป็นเกมพนันอีกประเภทหนึ่งที่ใช้เทคนิคกลเม็ดคล้าย ๆ กับเกมไฮโล แต่เกมน้ำเต้ามปูปลามีข้อดีและข้อสำคัญคือให้เลือกแทงทั้งสี และ แทงแบบรูปภาพสัญลักษณ์ก็ได้ โดยการแทงรูปแบบเลือกแทงสี และ เลือกแทงรูปภาพ จะใช้ลูกเต๋า 3 ลูกด้วยกัน โดยมีรูปสัตว์ 6 ชนิดแทนสัญลักษณ์ในการกำหนดผลรางวัลของเกมนั่นเอง ใครที่อยู่บ้านว่าง ๆ ไม่รู้ว่าจะเล่นเกมอะไรดี การเล่นเกมน้ำเต้าปูปลาก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีไม่น้อย