ไฮโลเกมพนันพื้นบ้าน ที่เล่นจากยุคสู่ยุค
( ไฮโลเกมพนันพื้นบ้าน ที่เล่นจากยุคสู่ยุค ) เกมไฮโลเป็นเกมที่เล่นกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย จนมาถึงปัจจุบันเกมไฮโลก็ยังเป็นที่นิยมเล่นกันอยู่ แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าเกมพนันไฮโลมีจุดเริ่มต้นมาจากไหน และในบ้านเรามีวิธีการเล่นไฮโลพื้นบ้านอย่างไร วันนี้เราจะพานักพนันทุกท่านที่สนใจได้รู้รายละเอียดที่น่าสนใจของเกมมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ใครที่อยากได้เทคนิคการเล่นไฮโลต้องไม่พลาดบทความนี้ อ่านต่อ เทคนิคเขย่าไฮโลแบบไหน ให้ได้เงินรางวัลทุกครั้ง
เกมไฮโล คืออะไร
ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าเกมพนันไฮโลเป็นเกมพนันชนิดหนึ่งที่มีจุดเริ่มต้นมาจากคนงานก่อสร้างจากประเทศจีน ได้นำอิฐที่ใช้ในการก่อสร้างมาเป็นอุปกรณ์ทดลองเล่น ด้วยการเขียนเลข 1-6 ลงไปบนอิฐจนครบทั้ง 6 ด้าน หลังจากเขียนครบแล้วก็นำอิฐมาโยนขึ้น ถ้าด้านไหนหงายออกมาเป็นตัวเลขอะไร ก็ให้ถือว่าเลขนั้นออกรางวัลชนะ
จากนั้นเกมนี้ก็มีชื่อเรียกเป็นภาษาจีนว่า “ซิกโบ” พร้อมกับได้ถูกพัฒนาเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามยุค ตามสมัย และยังมีการนำอุปกรณ์การเล่นจากก้อนอิฐเปลี่ยนเป็นลูกเต๋าแทน เพราะให้ความรู้สึกเวลาเล่นสะดวกง่ายขึ้น แถมไม่หนักเหมือนกับการโยนก้อนอิฐนั่นเอง
ต่อมาเกมไฮโลก็ได้รับความนิยมเล่นมากขึ้นอย่างแพร่หลายขยายออกไปทั่วทุกทวีปบนโลก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลี, ฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากนั้นประเทศเหล่านี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเกมจาก “ซิกโบ” มาเป็น “ไฮโล” ส่วนประเทศไทยนั้น เกมไฮโลก็ได้รับความสนใจด้วยเช่นกัน โดยคนในสมัยนั้นจะเรียกกันว่า “เกมไฮโลพื้นบ้าน” ซึ่งจะใช้อุปกรณ์การเล่นอะไร และมีวิธีเล่นอย่างไร มาดูกันในระดับถัดไป
- อุปกรณ์ที่ใช้เล่นเกมไฮโลพื้นบ้าน
ถ้าจะนึกถึงเกมพนันที่คนไทยสมัยโบราณนิยมเล่นแน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของเกมไฮโลพื้นบ้านอยู่แล้ว อุปกรณ์ที่นำมาใช้เล่นเกมก็จะได้แก่ ลูกเต๋า 3 ลูก, แผ่นยางที่ใช้วางเงินเดิมพัน 1 แผ่น, จานรองลูกเต๋า หรือ ลูกไฮโล และฝาครอบ หรือ ใช้เป็นฝากระติ๊บ 1 ใบ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดนี้ใช้ในการออกรางวัล ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีความสำคัญอย่างไร และ มีวิธีการใช้อย่างไร ดูได้จากหัวข้อย่อยข้างล่างกันดีกว่า
1.ลูกเต๋า
กติกาการเล่นเกมไฮโลจะใช้ลูกเต๋า 3 ลูก โดยลูกเต๋าจะมีสัญลักษณ์ จุดสีดำ (•) หรือจุดสีแดง (•) ที่แต้มอยู่บนหน้าของลูกเต๋าแต่ละด้าน ซึ่งลูกเต๋าแต่ละลูกจะมีด้านอยู่ทั้งหมด 6 ด้าน ไว้ใช้สำหรับเป็นตัวออกผลรางวัล โดยจุดแต่ละด้านเวลานับแต้มก็จะแตกต่างกัน ดังนี้
2.แผ่นยาง
เวลาเล่นจะมีแผ่นยางที่ระบุสัญลักษณ์เหมือนกับแต้มที่อยู่บนหน้าลูกเต๋า ซึ่งแผ่นยางจะมีหน้าที่ไว้ให้ผู้เล่นนำเงินลงวางเดิมพันไปตามช่องสัญลักษณ์ที่ต้องการอยากจะเดิมพัน
3.จานสำหรับรองลูกเต๋า
มีไว้ใช้ตอนรองลูกเต๋า หรือ ลูกไฮโล เวลาที่ต้องการออกผลรางวัล โดยคุณสามารถดูได้จากตัวอย่างภาพด้านล่าง
4.ฝากระติ๊บ หรือ ฝาครอบ
ในส่วนของฝาครอบมีไว้สำหรับครอบลูกเต๋าเวลาที่เขย่า เพื่อให้ผู้เล่นทายว่าลูกเต๋าจะออกมาเป็นหน้าแต้มอะไร ถ้าผู้เล่นทายถูกก็จะได้รับเงินเดิมพันไป
- เกมไฮโลพื้นบ้าน มีวิธีการเล่นอย่างไร
การเล่นเกมไฮโลพื้นบ้าน มีรูปแบบให้เลือกเล่นอยู่ทั้งหมด 7 รูปแบบ ซึ่งนอกจากรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันยังรวมถึงอัตราการจ่ายที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยคุณสามารถดูวิธีเล่นพร้อมรายละเอียดของรูปแบบดังนี้
1.รูปแบบการแทงต่ำ – สูง
รูปแบบของการเล่นแทงต่ำ-สูงนั้น เป็นการเลือกแทงจากการนำสัญลักษณ์ของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกมารวมกันว่าผลรางวัลจะออกมาเป็นแต้ม ต่ำหรือสูง ซึ่งในส่วนของการนับแต้มนั้นจะแยกวิธีออกได้คือ (แต้มต่ำ = 4-10 แต้ม) (แต้มสูง = 11-17) โดยรูปแบบของการเดิมพันแทงต่ำ-สูงจะมีอัตราการจ่ายเท่ากับ 1:1
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
ถ้าคุณวางเดิมพัน แทง ต่ำ ไปเป็นจำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของการออกรางวัลจากลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก เป็น สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่าง เมื่อนำแต้มมานับรวมกันจะเท่ากับ 9 แต้ม หมายความว่าคุณถูกรางวัล จะได้รับเงินเดิมพันทั้งหมดเท่ากับ 20 (เงินรางวัลนี้รวมทุน 10 บาท)
2.รูปแบบการแทงแบบเต็ง (เน้นเฉพาะแต้ม หรือ เน้นเอาแต่สัญลักษณ์)
สำหรับการแทงรูปแบบเต็งนั้น จะเป็นการเลือกแทงเดิมพันแบบเน้นเฉพาะเจาะจงแต้ม หรือ เน้นเฉพาะเจาะจงสัญลักษณ์ เช่น คุณเลือกเดิมพันให้ผลรางวัลของลูกเต๋า 1 ใน 3 ลูกออกมาเป็นแต้มอะไร โดยรูปแบบของการเดิมพันนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
กรณีหนึ่งเท่า : หากคุณวางเดิมพันด้วยการเลือกแทงออกแต้ม 3 จำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของรางวัลที่ลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมาเป็นสัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่าง จะเห็นได้ว่าคุณถูกรางวัลเต็ง และได้รับเงินรางวัลจากการเดิมพันอยู่ที่ 20 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
กรณีสองเท่า : คือเมื่อคุณวางเดิมพัน เลือกแทงแต้ม จำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของการออกรางวัลจากลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมาตามสัญลักษณ์รูปภาพด้านล่าง หมายความว่าคุณถูกรางวัลแทงเต็ง และจะได้รับเงินรางวัลไปทั้งหมดเป็น 2 เท่า คือ ได้รับเงินรางวัลทั้งหมดที่ 30 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
กรณีสามเท่า : คือเมื่อคุณวางเดิมพัน เลือกแทงแต้ม เป็นจำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมาได้สัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่าง หมายความว่าคุณถูกรางวัลแทงเต็ง โดยจะได้รับเงินรางวัลไปทั้งหมดที่ 3 เท่า คือ รับเงินจำนวน 40 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
3.รูปแบบการแทงโต๊ด
ในส่วนของรูปแบบของการแทงโต๊ด คือ การเดิมพันโดยเลือกให้ลูกเต๋า 2 ใน 3 ลูก ลุ้นให้ผลออกรางวัลได้เป็นเลขคู่ที่คุณแทงไว้ก็จะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งในรูปแบบการเดิมพันแบบนี้ จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:5
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
หากว่าคุณเลือกเดิมพันด้วยการแทงโต๊ด 3,4 ในจำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูกได้เป็นสัญลักษณ์แบบรูปภาพด้านล่าง หมายความว่าคุณแทงถูกได้รับรางวัลแทงโต๊ด และจะได้เงินรางวัลไปทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
4.รูปแบบการแทงโต๊ด (เน้นเจาะจงแต้ม หรือ เจาะจงสัญลักษณ์ 3 รูป)
รูปแบบของการแทงเดิมพันโต๊ดเจาะจงแต้มลูกเต๋าทั้งสามลูกนั้น ก็คือ การเลือกเดิมพันว่าลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ออกผลได้ตรงตามเดิมพันที่แทงไว้ ซึ่งรูปแบบการแทงเดิมพันแบบนี้ จะมีอัตราการจ่ายอยู่เท่ากับ 1:15
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
ถ้าคุณแทงเดิมพันโต๊ด 1, 2, 3 จำนวนเงิน 10 บาท แล้วผลของการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาได้เป็นสัญลักษณ์ตามรูปภาพด้านล่าง หมายความว่าท่านถูกรางวัลแทงโต๊ดแบบเจาะจงแต้มลูกเต๋า 3 ลูก จะได้รับเงินรางวัลไปทั้งหมดเท่ากับ 160 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
5.รูปแบบการแทง 5 ต่ำ
การแทงรูปแบบ 5 ต่ำ ก็คือ การวางเดิมพันว่าลูกเต๋า 1 ใน 3 ลูก จะออกผลรางวัลออกมาเป็นสัญลักษณ์ 5 แต้ม 1 ลูก และผลรวมของลูกเต๋าที่เหลืออีก 2 ลูก จะต้องได้แต้มรวมกันไม่เกิน 5 นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อนำเอาลูกเต๋าที่เหลืออีก 2 ลูกนี้ ไปรวมกับลูกเต๋าที่มีค่า 5 แต้มแล้ว ลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกจะต้องนับแต้มรวมกันไม่เกิน 10 ซึ่งรูปแบบนี้จะเรียกว่า 5 ต่ำ โดยมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:5
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
เมื่อคุณเลือกแทงรูปแบบ 5 ต่ำ จำนวนเงิน 10 บาท เมื่อผลออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ออกมาเป็นสัญลักษณ์ รูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง ในทั้ง 6 แบบตามรูปภาพด้านล่าง หมายความว่าคุณถูกรางวัล 5 ต่ำ และคุณก็จะได้รับเงินรางวัลไปทั้งหมดที่ 60 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
6.รูปแบบการแทง 11 ไฮโล
ส่วนการแทงรูปแบบนี้ จะเป็นการเดิมพันทายผลรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ว่ามีเมื่อนำแต้มมารวมกันจะได้เท่ากับ 11 แต้มนั่นเอง ซึ่งรูปแบบนี้จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:5
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
หากคุณวางเดิมพันด้วยเลือกแทง 11 ไฮโล เป็นจำนวนเงิน 10 บาท หากผลรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูกออกมาได้เป็นสัญลักษณ์ แบบใดแบบหนึ่ง ตาม 6 แบบในภาพด้านล่าง หมายความว่าคุณถูกรางวัล 11 ไฮโล และได้รับเงินรางวัลไปทั้งหมดเท่ากับ 60 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
7.รูปแบบแทง 6 ต่ำ
สำหรับการเลือกแทงรูปแบบแทง 6 ต่ำ คือ การเลือกเดิมพันว่าลูกเต๋าจะออกผลรางวัลเป็นสัญลักษณ์ 6 แต้ม 1 ลูก ส่วนลูกเต๋าที่เหลืออีก 2 ลูก จะต้องนับแต้มรวมกันแล้วไม่เกิน 4 แต้ม ซึ่งเมื่อนำเอาแต้มลูกเต๋าทั้งหมด 3 ลูกมารวมกันจะได้แต้มไม่เกิน 10 โดยจะเรียกว่า 6 ต่ำ รูปแบบการเดิมพันนี้จะได้อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:5
ยกตัวอย่างการแทงรูปแบบนี้
ถ้าคุณเลือกเดิมพัน แทง 6 ต่ำ จำนวนเงิน 10 บาท เมื่อผลการออกรางวัลของลูกเต๋าทั้งสามลูก ได้เป็นสัญลักษณ์แบบใดแบบหนึ่ง ตามภาพด้านล่าง ทั้ง 4 แบบ หมายความว่าคุณจะถูกรางวัล 6 ต่ำ และจะได้รับเงินรางวัลจากการแทงเดิมพันนี้เท่ากับ 60 บาท (รวมทุนแล้ว 10 บาท)
มีคำตอบที่นี้ที่เดียว ความแตกต่างระหว่าไฮโลไทยกับไฮโลเวียดนามถ้าสนใจอ่านต่อ ไฮโลเวียดนาม คืออะไร
จบลงไปแล้วกับวิธีการเล่นไฮโลพื้นบ้านไปแล้ว คาดว่าทุกท่านที่ต้องการเล่นเกมพนันนี้คงพอเข้าใจและเรียนรูปแบบการแทงไฮโลพื้นบ้านทั้ง 7 รูปแบบแล้วเป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าการเล่นไฮโลแต่ละรูปแบบนั้น ไม่มีความสลับซับซ้อนเลย นอกจากนั้นข้อดีของการเล่นพนันไฮโลพื้นบ้านก็คือ คุณสามารถที่จะเล่นไฮโลออนไลน์ได้แล้ว ฉะนั้นเมื่อคุณมีความเข้าใจอย่างละเอียดก็สามารถนำไปทดลองเล่นได้ โดยปัจจุบันก็มีคาสิโนออนไลน์ที่เปิดรับแทงไฮโลพื้นบ้านอยู่มากมาย ถูกใจเว็บไหนก็อย่างรอช้าลงเล่นกันได้เลยล่ะ