Categories
เกมไพ่เก้าเก

กติกาเก้าเก มีอะไรบ้าง มือใหม่ควรรู้ก่อนเดิมพัน

กติกาเก้าเก มีอะไรบ้าง มือใหม่ควรรู้ก่อนเดิมพัน


( กติกาเก้าเก มีอะไรบ้าง มือใหม่ควรรู้ก่อนเดิมพัน )ไพ่เก้าเกเป็นอีกหนึ่งเกมไพ่ที่ได้รับความนิยมากในหมู่ของผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชค นอกเหนือจากไพ่แคง ไพ่ดัมมี่ ไพ่ป๊อกเด้ง ที่เป็นเกมเต็งหนึ่งในใจของเซียนพนันอยู่แล้ว แต่สำหรับมือใหม่อาจจะงง ๆ อยู่ว่า ไพ่เก้าเกมีวิธีเล่นอย่างไร กฎ กติกา เป็นแบบไหน วันนี้เราจะพานักเดิมพันที่น่าสนใจเกมไพ่เก้าเก ได้รู้จักเก้าเกมากขึ้น และเล่นเป็นได้ชนิดไม่แพ้เซียนพนันมือเก๋าเลยทีเดียว

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิก สอนกฎ กติกา การนับแต้มไพ่ เก้าเก อย่างละเอียดที่นี้ ที่เดียว  

กติกา-เก้าเก

เกมไพ่ เก้าเก คืออะไร

เก้าเกเป็นเกมไพ่อีกหนึ่งเกมที่นักพนันชาวไทยให้ความสนใจและนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย โดยอุปกรณ์ที่ใช้เล่นจะมีเพียงไพ่แค่ 3 ใบเท่านั้น อีกทั้งเกมไพ่เก้าเกยังจัดได้ว่าเป็นไพ่ที่ต้องอาศัยดวงสูง เนื่องจากในระหว่างเล่นผู้เล่นจะไม่สามารถจั่วเปลี่ยนไพ่ได้ คือ เมื่อได้รับแจกไพ่มา 3 ใบแล้วก็ต้องเล่นตามตัวที่ได้ หากว่าพกดวงมาได้ไพ่แต้มดีก็ถือว่าโชคดีไป

เกมเก้าเกนอกจากจะต้องใช้ความเสี่ยงของดวงสูงแล้ว ยังต้องมีไหวพริบ กลยุทธ์ สูงด้วยเช่นกัน เพราะต้องเอาไว้หลอกล่อคู่ต่อสู้ และที่สำคัญต้องมีทุนสำรองไว้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว อย่างเช่น หากได้แต้มน้อย ๆ แต่กล้าที่จะลองเสี่ยงดูเพื่อหวังเป็นฝ่ายชนะก็จะต้องลงเงินเพิ่มขึ้นเพื่อจะได้เกทับคู่แข่งนั่นเอง หรือกรณีที่คู่แข่งยอมหมอบก่อนหรือไม่ลงเงินสู้ ถึงจะมีโอกาสชนะในเกมได้ ซึ่งหากเลือกลงเงินเกทับจะลงไปแบบไม่มีแบบแผนไม่ได้ ต้องพิจารณาสถานการณ์ในรอบนั้นก่อน ด้วยการดูชั้นเชิง อากัปกิริยาของคู่ต่อแข่ง เช่น ท่าทาง สีหน้า แววตา ว่าจะแสดงออกมาแบบไหน

ถ้าผู้เล่นบางคนที่ไม่ชำนาญได้ไพ่แต้มดีหน่อยก็จะเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เผลอแสดงอาการสีหน้าตื่นเต้น ดีใจ ให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเห็นแบบนั้นแล้วหันกลับมาดูไพ่ในมือแล้วพบว่าได้ไพ่แต้มน้อยมาก ๆ แนะนำว่าอย่าเสี่ยงเทเงินลงไปสู้จะดีกว่า เพราะเมื่อคู่แข่งรู้ตัวอยู่แล้วว่ามีแต้มใหญ่กว่า ถึงอย่างไหร่เขาก็เลือกที่จะเกทับเราเต็ม ๆ อยู่แล้ว ซึ่งเท่ากับว่าคนที่มีแต้มน้อยกว่าก็จะมีโอกาสเสียมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เช่นกัน

เกมไพ่เก้าเก

เก้าเก มีกฎการเล่น อย่างไรบ้าง

เก้าเกมีกฎการเล่นไพ่อยู่หลัก ๆ ดังนี้

  1. ผู้เล่น :

เกมไพ่บางชนิดในวงไพ่จะมีเจ้ามือประจำวง แต่สำหรับไพ่เก้าเกตามกฎแล้วจะไม่มีเจ้ามือ ใช้ผู้เล่นอย่างน้อยตั้งแต่ 2-6 คน (ถ้าอยากจะเล่นเพื่อความสนุก ๆ ไม่ได้จริงจัง ควรเล่นไม่เกิน 6 คน) และใช้ไพ่ในการเล่น 1 สำรับ โดยขั้นตอนการเล่น คือ ก่อนที่จะเริ่มแจกไพ่ผู้เล่นต้องวางเงินกองกลางลงมาก่อน ส่วนจำนวนเงินก็แล้วแต่ตกลงกันว่าจะลงเงินคนละกี่บาท จากนั้นก็มาถึงการแจกไพ่โดยในรอบแรกสามารถแจกให้ใครก็ได้ แต่รอบถัดมาเมื่อได้ผู้ชนะแล้วก็ให้แจกไพ่กับผู้ชนะเป็นคนเริ่มต้น แล้วค่อยจ่ายให้คนถัดไปที่อยู่ทางด้านซ้ายตลอด

  1. วิธีนับแต้ม :

ส่วนวิธีนับแต้มดูผลแพ้ชนะของไพ่เก้าเก จะใช้การเรียงจากแต้มใหญ่ไปเล็ก ดังนี้ ตอง>เสตรทฟลัช>เรียง>เซียน>สี>แต้ม

  • ไพ่ตอง

จะเป็นไพ่ที่มีลักษณะของไพ่สามใบมีเลขเดียวกันทั้งหมด ด้วยการเรียงจากลำดับใหญ่-เล็ก ตอง 3 ถือว่าเป็นไพ่ใบที่ใหญ่สุดสำหรับเกมเก้าเก เพราะเวลานับผลรวมของไพ่ทั้ง 3 ใบ ตอง 3 นี้จะนับแต้มได้เท่ากับ 9 แต้ม ส่วนลำดับถัดมาของไพ่ตอง คือ A>ตอง  K>ตอง Q> ตอง J > ตอง 10 > ตอง 9 > ตอง 8 > ตอง 7 > ตอง 6 > ตอง 5 > ตอง 4 > และ ตอง 2

  • ไพ่เรียงสี (เสตรทฟลัช)

คือ ไพ่ทั้ง 3 ใบที่ได้รับแจกเป็นไพ่ที่มีเลขเรียงต่อกันและต้องเป็นดอกเดียวกันเท่านั้น กรณีที่มีผู้เล่นได้ไพ่สีเหมือนกัน เวลาตัดสินผลแพ้ชนะจะนับกันที่ดอกไพ่ โดยมีลำดับการนับ ดังนี้ โพธิ์ดำ > โพธิ์แดง > ข้าวหลามตัด > ดอกจิก แต่ถ้ายังมีดอกเดียวกันก็จะนับไพ่ที่เรียงของแต่ละคนว่าผู้เล่นคนไหนที่ได้เลยเรียงสูงกว่ากัน (เรียงสูงสุดคือ QKA ตามลำดับ)

  • ไพ่เรียง

ไพ่ที่ได้รับแจกทั้ง 3 ใบจะเป็นเลขเรียงต่อกันตามลำดับ ซึ่งไพ่ใหญ่สุดจะเริ่มตั้งแต่ QKA เรียงไล่ไปเรื่อย ๆ จนไปถึงน้อยสุดก็คือ A23

การนับแต้มเก้าเก

  • ไพ่เซียน

ไพ่ทั้งหมด 3 ใบที่อยู่ในกลุ่มไพ่ J, Q, K โดยไม่ต้องเรียงลำดับกัน เช่น KKQ, JJK, QQJ เป็นต้น หากว่าผู้เล่นคนอื่นได้ไพ่เซียนเหมือนกัน เวลาตัดสินผลแพ้ชนะจะดูตรงที่ตัวคุมโดยเรียงลำดับจากใหญ่ – เล็ก คือ โพธิ์ดำ (K>Q>J) โพธิ์แดง (K>Q>J) ดอกจิก (K>Q>J) และ ข้าวหลามตัด (K>Q>J)

  • ไพ่สี

เป็นไพ่ที่มีลักษณะ ไพ่ทั้ง 3 ใบ มีสีและดอกเหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องเรียงกัน การวัดผลแพ้ชนะให้ดูจากไพ่ที่เรียงสีจากลำดับใหญ่ – เล็ก คือ โพธิ์ดำ>โพธิ์แดง>ข้าวหลามตัด>ดอกจิก

  • ไพ่นับแต้ม

จะเป็นการนับแต้มผลรวมของไพ่ทั้ง 3 ใบ โดยแต้มใหญ่ที่สุดจะได้แก่ 9 แต้ม หากเกิดกรณีที่แต้มไพ่รวมกันแล้วได้เป็นแต้ม 10 ขึ้นไป เวลานับจะต้องตัดเลขหลักสิบออกให้เหลือแต้มเพียงแค่หลักหน่วยเท่านั้น แต่ทว่าได้แต้มเท่ากับ ลำดับถัดมาก็ให้ดูตัวคุมไพ่ โดยเรียงลำดับจาก K> Q> J> 10> 9> 8> 7> 6> 5> 4> 3> 2>1 และถ้าเกิดว่าตัวคุมก็เท่ากันอีก ก็ให้ดูต่อไปที่ดอกไพ่ ไล่ตามลำดับ คือ โพธิ์ดำ>โพธิ์แดง>ข้าวหลามตัด>ดอกจิก

  1. คำศัพท์ทั่วไปในเกมเก้าเก

เกมเก้าเกจะมีคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกในเกม อย่างเช่น

  • เก = การเดิมพันตามปกติ
  • เกทับ = การเดิมพันที่เพิ่มเงินสูงขึ้นจากที่ผู้เล่นคนอื่นได้ลงไว้แล้ว
  • หมอบ = การยอมแพ้ไม่เล่นต่อด้วยการวางไพ่ลงหรือทิ้งไพ่คืนเข้ากองนั่นเอง
  • ตาม = การเดิมพันสู้คู่ต่อสู้ที่วางเดิมพันไว้ก่อนแล้ว ด้วยการวางเดิมพันให้สูงขึ้น เช่น คนแรกลงเดิมพันไปแล้วที่ 10 บาท คนที่ 2 ลงวางเดิมพันสูงกว่าคนแรก เป็น 15 บาท หากคนแรกต้องการที่จะสู้ จะต้องวางเดิมพันเพิ่มอีก 5 บาท เพื่อให้เท่ากับคนที่ 2 พร้อมกับพูดคำว่า ตาม

เกมไพ่

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับรายละเอียดวิธีเล่นและกฎของเกมไพ่เก้าเกที่ทางเรานำมาฝากให้นี้ หวังว่าคงพอทำให้นักพนันที่สนใจอยากเล่นได้เข้าใจและเล่นตามได้ โดยสามารถสรุปได้ว่าหลักการวัดผลชนะของเกมไพ่เก้าเก คือ ต้องเรียงไพ่จาก ตอง > เสตรทฟลัช > เรียง > เซียน > สี > แต้ม ตามลำดับแบบนี้ หรือหากได้แต้มเสมอกันก็ให้ดูที่ตัวคุมต่อไป เก้าเกเป็นเกมไพ่ที่สามารถเล่นได้ง่าย ๆ ถ้าอยากเล่นแบบสนุก ๆ ในกับเพื่อนก็ใช้ผู้เล่นไม่เกิน 6 คน แต่ถ้าจะเล่นแบบเป็นรายได้ก็อาจจะต้องใช้ผู้เล่นมากกว่านี้คะ

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิก ป๊อกเด้ง เล่นอย่างไร ถึงได้เป็นเกมไพ่ยอดนิยมทุกยุคทุกสมัย

Categories
เกมไพ่เก้าเก

สอนกฎ กติกา การนับแต้มไพ่ เก้าเก อย่างละเอียดที่นี้ ที่เดียว

สอนกฎ กติกา การนับแต้มไพ่ เก้าเก อย่างละเอียด


( สอนกฎ กติกา การนับแต้มไพ่ เก้าเก อย่างละเอียด ) นอกจากเกมไพ่ป๊อกเด้ง, บาคาร่า, สล็อต, โป๊กเกอร์ ที่นักพนันส่วนใหญ่ให้ความนิยมเข้าไปเล่นวางเดิมพันกันแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเกมไพ่ที่หากนักพนันคนไหนไม่เคยเข้าไปเล่น บอกได้คำเดียวว่าพลาดอย่างแรง ซึ่งเกมที่ว่าก็คือเกมไพ่ “เก้าเก” นั่นเอง โดยเกมไพ่เก้าเก มีกฎกติกา การนับแต้มไพ่ วิธีการเล่น และลักษณะของไพ่ เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากว่าคุณยังไม่เคยเล่นมาหรือรู้จักเกมไพ่เก้าเกมาก่อน วันนี้เราจะสอนให้อย่างละเอียดที่นี้ที่เดียว รับรองเล่นชนะได้ไม่แพ้เซียนเก้าเกอย่างแน่นอน

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน  แบล็คแจ็ค เกมพนันที่มีประวัติความเป็นนานนับทศวรรษ

เกมไพ่เก้าเก

เก้าเก คืออะไร

เป็นเกมไพ่อีกชนิดหนึ่งที่มีรูปแบบการเล่นลักษณะคล้ายกับเกมป๊อกเด้งผสมกับโป๊กเกอร์ ก่อนที่เกมจะเริ่มเล่นผู้เล่นจะต้องวางเดิมพันลงมาก่อน (หรือที่เรียกว่าค่าต๋ง) ซึ่งในสมัยก่อนกติกาของเก้าเกจะให้ผู้เล่นวางเดิมพันด้วยลูกอมหรือสิ่งของต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้เล่นกับเพื่อน ๆ แต่ในปัจจุบันเกมเก้าเกได้ถูกนำเข้าไปเกมพนันอีกหนึ่งเกมในคาสิโนออนไลน์เพื่อให้นักพนันจากทั่วโลกได้มีโอกาสวางเล่น ฉะนั้นการวางเดิมพันก็จะถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบของ ชิพ หรือ เงินจริง แทน

ก่อนที่จะเล่นเกมผู้เล่นทุกคนที่ต้องการจะเล่นเก้าเกจะต้องเริ่มทำการวางเดิมพันก่อน (เรียกว่าค่าต๋งหรือกองกลาง) ส่วนจะวางเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องหรือโต๊ะเป็นผู้กำหนด หลังจากนั้นเจ้ามือจะทำการสับไพ่แจกให้กับผู้เล่นทุกคน โดยสามารถที่จะเริ่มแจกจากใครก่อนก็ได้ (เฉพาะในรอบแรก) แต่ถ้ารอบต่อไปจะต้องแจกให้กับผู้ชนะในรอบที่แล้วเป็นคนแรก แล้วแจกวนไปทางด้านซ้ายมือของผู้ชนะไล่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งผู้เล่นทุกคนจะได้รับไพ่แจกคนละ 3 ใบเท่ากัน

เมื่อได้ไพ่ครบทั้ง 3 ใบแล้ว ให้ผู้เล่นนับไพ่ทั้ง 3 ใบว่าฝั่งใดมีแต้มมากที่สุด หรือ มีแต้มพิเศษที่ใหญ่กว่า ซึ่งแต้มที่ถือว่าเป็นแต้มใหญ่สุดจะได้แก่ 9 แต้ม และถ้าเป็นแต้มพิเศษจะเรียงจากน้อยสุด ไปทางเยอะสุด ดังนี้

คุณอาจสนใจบทความนี้ คลิกอ่าน ข้อควรรู้ก่อนที่จะเล่นจริง เกมกำถั่ว

การนับแต้มเก้าเก

  • สี : ในส่วนของไพ่สี จะถูกแบ่งออกเป็น 4 สีด้วยกัน โดยเรียงจากสีที่น้อยที่สุดไปจนถึงสีที่มากที่สุด คือ ดอกจิก > ข้าวหลามตัด > โพธิ์แดง > โพธิ์ดำ
  • เรียง : เป็นการเรียงโดยนำไพ่ที่มีจำนวนหน้าไพ่แต้มเรียงกัน เช่น 2-3-4 หรือ 10-J-Q
  • เซียน : ในส่วนของไพ่เซียน คือ ได้รับไพ่ฝรั่งทั้งสามใบ แต่จะยกเว้น A เช่น K-Q-Q หรือ Q-K-Q
  • ตอง : เป็นการได้รับไพ่หน้าเดียวกันทั้ง 3 ใบ เช่น Q-Q-Q, 4-4-4
  • สเตรทฟลัช : เป็นไพ่ที่มีหน้าไพ่แต้มเรียงกัน และไพ่แต่ละใบจะมีสีเดียวกัน คือ 7 (ดอกจิก) – 8 (ดอกจิก) – 9 (ดอกจิก) หรือ Q (ข้าวหลามตัด) – K (ข้าวหลามตัด) – A (ข้าวหลามตัด)

หลังจากที่ผู้เล่นทุกคนได้รับไพ่จนครบ 3 ใบให้ดูแต้มไพ่ของตนเองก่อน ต่อไปก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการเกทับ ซึ่งการเกทับ ก็คือการที่ผู้เล่นต้องมั่นใจว่าหน้าไพ่ของตัวเองใหญ่กว่าและสู้ผู้อื่นได้อย่างแน่นอน ก็สามารถขอวางเดิมพันเพิ่มได้ แต่ส่วนเรื่องการวางเดิมพันจะต้องเริ่มวางเดิมพันเป็นไปตามลำดับของการแจกไพ่ โดยผู้เล่นที่ได้รับไพ่คนแรกจะวางเดิมพันก่อนถึงจะไล่ไปยังคนที่อยู่ด้านซ้ายมือวนไปเรื่อย ๆ

และหากผู้เล่นคนไหนที่มีหน้าแต้มไพ่ใหญ่ไม่พอ ก็สามารถขอหมอบไพ่ เพื่อยุติการเล่นในรอบนั้นได้ (แต่ถ้าขอหมอบไพ่ผู้เล่นจะต้องเสียค่าต๋งหรือกองกลางไปในทันที)

แต่ถ้าผู้เล่นตกลงกันในวงแล้วว่าจะไม่ขอเกทับเพิ่ม ก็ให้เปิดไพ่ออกมาเพื่อวัดแต้มหน้าไพ่กันว่า ผู้เล่นคนไหนจะได้แต้มที่ใหญ่กว่า ก็จะเป็นฝ่ายชนะได้รับเงินกองกลางทั้งหมด (รวมทั้งเงินเดิมพันที่เกทับไปด้วย) หรือกรณีที่เหลือผู้เล่นอยู่เพียงคนเดียว (ที่ต้องการเกทับ) ซึ่งผู้เล่นคนอื่นขอหมอบไพ่หมดแล้ว ผู้เล่นที่ยังถือไพ่อยู่ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะในรอบนั้น โดยมีสิทธิ์ที่จะหงายไพ่ หรือ ไม่หงายไพ่ก็ได้เช่นกัน

ไพ่ป๊อกเด้ง

การนับแต้มหน้าไพ่ และลักษณะของไพ่เก้าเก

  • นับแต้มทั่วไป : จะเป็นการนับแต้มจากหน้าไพ่ที่ได้รับแจก โดยไม่เกี่ยวกับแต้มพิเศษ โดยมีวิธีการนับแต้มไพ่ทั่วไป ดังนี้
  • A: จะนับแต้มเทียบเท่ากับ 1 แต้ม
  • 2-9 : จะนับแต้มเท่ากับจำนวนเลขที่อยู่บนหน้าไพ่
  • 10 : จะนับแต้มเทียบเท่ากับ 0 แต้ม
  • J : จะนับแต้มเทียบเท่ากับ 0 แต้ม
  • Q : จะนับแต้มเทียบเท่ากับ 0 แต้ม
  • K : จะนับแต้มเทียบเท่ากับ 0 แต้ม

การนับแต้มทั่วไปจะใช้วิธีวัดจากไพ่ในมือว่าไพ่ของผู้เล่นคนไหนที่มีไพ่ใหญ่ที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะ ซึ่งไพ่ใหญ่ที่สุดจะได้แก่ไพ่ K โพธิ์ดำ, หัวใจ, ข้าวหลามตัด, ดอกจิก เรียงลำดับกันลงไปเรื่อย ๆ และในทางกลับกันไพ่ที่เล็กสุดก็จะได้แก่ A ดอกจิก

  • ดอกเดียวกัน หรือ สีเดียวกัน : จะได้แก่หน้าไพ่ที่มีสีเดียวกัน หรือ ดอกเดียวกัน เช่น ไพ่ 3 ใบ หน้าไพ่ออกมาเป็น A (ดอกจิก), 5 (ดอกจิก), และ 2 (ดอกจิก)
  • เรียง : จะได้แก่ไพ่ที่มีจำนวนแต้มเรียงกัน หรือจะเป็นหมายเลขที่เรียงกันด้วยก็ได้ เช่น 4-5-6 หรือ J-Q-K หากกรณีที่ผู้เล่นมีไพ่แต้มเรียงกันจะนำจำนวนแต้มมาวัดกัน ซึ่งก็ถือใครที่ได้แต้มน้อยกว่าถือว่าแพ้ โดยดูได้จากไพ่ที่เรียงแต้มน้อยสุดคือ 2-3-4 ส่วนไพ่เรียงที่มีแต้มมากที่สุดคือ Q-K-A
  • เซียน : จะเป็นไพ่ฝรั่งที่อยู่ในกลุ่มไพ่ J, Q, K เช่น QQK, KKJ, KKQ ซึ่งผู้เล่นคนไหนได้ไพ่ลักษณะนี้ถือว่าเป็นไพ่เซียนเหมือนกัน โดยจะวัดกันที่ไพ่ใหญ่ที่สุด ซึ่งไพ่ใหญ่ที่สุดของไพ่เซียนคือ K (ดอกจิก) และไพ่เล็กที่สุดคือ J (ดอกจิก)
  • ตอง : เป็นไพ่ทั้ง 3 ใบ มีลักษณะหน้าไพ่ที่เหมือนกัน เช่น 4-4-4, 5-5-5 หรือ Q-Q-Q โดยไพ่ตองที่ถือว่ามีค่ามากที่สุดก็คือ ตอง 3 ถัดลงมาคือ ตอง A ซึ่งจะไล่ลงมาแบบนี้ไปเรื่อย ๆ (3 – A – K – Q…4 – 2) หากกรณีที่ผู้เล่นมีไพ่ตองเหมือนกันก็จะไม่นำสีของไพ่มาวัด
  • สเตรทฟลัช : คือไพ่ทั้ง 3 ใบบนมือ มีหน้าไพ่สีเดียวกัน และยังมีแต้มหรือหมายเลขเรียงกัน เช่น 3-4-5 (สีโพธิ์ดำทั้งหมด) ส่วนกรณีที่ผู้เล่นได้ไพ่สเตรทฟลัชเหมือนกัน ก็ให้วัดจากไพ่เรียงที่แต้มใหญ่กว่า และถ้าไพ่เรียงเหมือนกันอีก ก็ให้วัดจากสีที่ใหญ่กว่าเป็นต้น

เกมไพ่เก้าเกออนไลน์

หลังจากจบบทความสอนกฎ กติกา การนับแต้มไพ่ ของเกมไพ่เก้าเกจบแล้ว หวังว่าคงทำให้นักเดิมพันทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่าคงจะได้รู้จักวิธีเล่นไพ่เก้าเกแล้วว่ามีวิธีเล่นอย่างไร โดยเก้าเกจะเป็นเกมไพ่ที่คล้าย ๆ กับป๊อกเด้ง ผสมกับโป๊กเกอร์ อีกทั้งในเกมนี้ผู้เล่นยังต้องอาศัยจิตวิทยาด้านการใช้สายตาเล็กน้อย นอกจากนั้นต้องฝึกการใช้ท่าทางข่มคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ เวลาที่ต้องการเกทับ หากใครสนใจอยากเล่นเกมเก้าเกก็สามารถหาเล่นได้ตามเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ทั่วไปที่เปิดให้เลือกเล่นกันหลายเว็บด้วยกัน